วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

OranGe is HAPPY ~~~



10-12-17


OranGe is HAPPY


เป็นวันที่...

เรา มีความสุขที่สุดของปีเลย ถ้านับตั้งแต่ 1 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา





































.....

วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560

อีก 10 เดือน จะแต่งงานแล้ว ...



14-12-17


หลายวันก่อน หม่าม๊าพูดกับเราว่า  หม่าม๊าให้เจ้อรหาเพชรให้เรา

เห็นไมค์บอกหม่าม๊าว่า เราอยากได้เพชร 12 กะรัต

แต่หม่าม๊าว่า เราตัวเล็ก , 12 กะรัต มันจะใหญ่ไปนะ

หม่าม๊าว่า 2 กะรัตน่าจะกำลังสวย


เราฟังม๊าพูดแล้ว ก็เลยหัวเราะ

ตอบม๊ากลับไปว่า ส้มแซวไมค์เล่นค่ะ

แซวไมค์ว่า คบกันมานาน ถ้ายังไม่ยอมแต่งซักที

ส้มจะขอแหวนเพชรจากไมค์ตอนแต่งงาน

โดยคบกันกี่ปี จำนวนกะรัตก็จะตามจำนวนปีที่เราคบกันค่ะ

แต่สงสัย ม๊าคิดว่าเราพูดจริง ...












พอบอกไมค์ ไมค์บอกเราว่า ไว้หาเพชรได้ก่อน แล้วค่อยแต่ง...

ไอ้หย่ะ เค้างอนนะถ้าทำแบบนั้นจริง ๆ

ณ จุดจุดนี้ เพชรไม่ต้องก็ได้ แต่งงานกับชั้นซักทีเถอะ 555

มดลูกชั้นใกล้จะ Expire แล้วน้า ...   :D




.....




นึกถึงเรื่องแต่งงานเมื่อคืนก่อน

สองคืนที่ผ่านมา ก็เลยเริ่ม List รายชื่อโรงแรมที่อยากจัดงานมาคร่าว ๆ

ได้มาหลายโรงแรมแล้วเหมือนกัน




แต่เงื่อนไขของห้องจัดเลี้ยงเราค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น

เพราะ เราไม่อยากได้ห้องจัดเลี้ยงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ไว้ค่อยว่ากันอีกที ... เรื่องราคา ก็สำคัญ เพราะ เสียดายเงินมาก




ตอนแรก ตั้งใจจะจัดแบบเล็ก ๆ คือ

งานช่วงเช้า จัดที่บ้าน

ช่วงบ่ายก็มีกินเลี้ยงกับญาติสนิท ๆ เท่านั้นของทั้ง 2 บ้าน ที่ห้องอาหารของโรงแรม

ไม่เชิญเพื่อนหรือคนรู้จักเลย เชิญแต่ญาติที่สนิทก็พอ

แต่ ไมค์บอกว่า คงจะเป็นแบบนั้นไม่ได้ เพราะ ป๊ากับม๊าคงจะไม่ยอม




แอบชอบโรงแรม Okura กับ Siam Kempinski นะ

แต่ .. ราคา โหดดดดดดดดดดดดดดดดด .... มากกก

อาจต้องแต่งงานที่ลานกว้าง ๆ หน้าสรรพากรที่อยู่ตรงข้ามบ้านเราแทนแล้วแหละ (ไมค์กล่าว) 555




สำหรับตอนนี้

ธีมงาน รูปแบบของงาน เปลี่ยนไปหมดเลยจากที่เคยคิด เคยเขียนไว้ในไดอารี่ อย่างสิ้นเชิง

เปลี่ยนแบบ หน้ามือ เป็นหลังมือไปเลยอ่ะ นึกแล้วก็ตลกตัวเองเหมือนกัน




.....


ไมค์บอกว่า ไม่อยากแต่งงานตามสโมสรหรืออะไรพวกนี้

อยากแต่งงานในโรงแรมมากกว่า (อันนี้ เราเห็นด้วย ^^)


.....

วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2560

1 เดือนนิด ๆ กับการทำงานกับไมค์



08-12-17


หลังจากเรียนทำขนมจบคอร์สแล้ว

เดือนพฤศจิกายน คือเดือนแรก ของการเริ่มต้นทำงานที่ใหม่ของเรา

พูดซะเว่อร์อีกละ อิอิอิ (>.< )"




เราไปช่วยไมค์ที่ร้าน รู้สึกตัวเอง ทำอะไรไม่เป็นเลยอ่ะ

เข้าใจความรู้สึกของบรรดาพยาบาลที่เราเคยสอนงานใหม่ ๆ เลยว่า

การหยิบจับ หรือ คำศัพท์สิ่งของใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน มันยากแค่ไหน




แทบจะใหม่หมดสำหรับเรานะ

สเกิร์ต กันชน บลา ๆ ๆ นอกจากยี่ห้อแล้ว ยังต้องมีรุ่น ปีอะไร สีอะไร อีก

ไหนจะร้านนี้มาซื้อของ ต้องเปิดบิลเล่มไหน

คนนี้มาเอาของ มาจากร้านไหน เรายังจำไม่ได้ทั้งหมด

เวลาจะทำอะไร ก็จะต้องคอยถามคนอื่นตลอดทุกครั้ง

จนบางครั้งรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีประโยชน์ยังไงก็ไม่รู้ แหะ ๆ ^^"




มีบางครั้ง ก็ลองเข้าโกดังไปหยิบของเองบ้าง

กรุล้อ กันสาด กันชน สเกิร์ต อะไรพวกนี้ เริ่ม ๆ รู้ที่รู้ทางแล้วว่า อะไรอยู่ตรงไหน

อีกซักพัก ใหญ่ ๆ ๆ ๆ  เลยแหละ กว่าเราจะโอเค



อ้อ ๆ เรื่องรับโทรศัพท์อีก

หงุดหงิดสุดเลยแหละเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ ทำงานที่บ้าน เวลาโทรศัพท์ดัง ทุกคนจะคุยกับเรา

เพราะ เรารู้เรื่องทุกเรื่อง

แต่ พอไปช่วยไมค์ทำงาน มันกลับกันหมด

ใครโทรมา พอรับสาย เราไม่สามารถตอบอะไรได้เลย

มันเลยเป็นความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้

คงต้องใช้เวลาอีกนั่นแหละ กว่าทุกอย่างจะโอเค





ถึงแม้จะไปทำงานด้วยอารมณ์ มึน ๆ เบลอ ๆ

แต่ ก็ยังคงมีความสุขกับการตื่นเช้าแล้วคิดว่าต้องไปทำงาน

เช้าวันจันทร์ ไม่ใช่เช้าที่น่าเบื่อหรือน่าขี้เกียจอีกต่อไปสำหรับเรา

เรา Happy กับการทำงานในทุก ๆ วันเลยนะ

กินทั้งวัน จนน้ำหนักขึ้น แก้มบวมเลย

วันก่อนชั่งน้ำหนักที่โรงพยาบาล ต๊กกะใจเลย เป็นไปได้ยังไง

น้ำหนักเยอะที่สุดในรอบ 6-7 ปีเลย อิอิ




.....




อยู่กับไมค์ทั้งวัน (อยู่กับป่ะป๊า-หม่าม๊าทั้งวันด้วย)

มันทำให้เรา ติดหนึบ ไมค์ มากกว่าเดิมอีก เอิ๊ก ๆ

เอาหล่ะ ต่อไปนี้ จะแยกจากกัน ยิ่งยากเข้าไปอีก

ก่อนหน้านี้ เจอกันแค่ช่วงหัวค่ำถึงดึก ๆ ก็ติดไมค์จะแย่อยู่แล้ว

นี่ อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลย....

คิดดูก็แล้วกัน ว่า จะติดหนึบหนักกว่าเดิมแค่ไหน :P





.....


Happy Thursday ka .. :)


.....

วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ยิ้มสวยแล้วค่า.... ^^



06-12-17


วันนี้มีนัดกับคุณหมอ เพื่อถอดเครื่องมือจัดฟัน

กระดี๊กระด๊าเป็นที่สุด.....

กว่าจะได้อวดรอยยิ้มที่ปราศจากเหล็กดัดฟัน ก็อายุ 32 เข้าไปละ




รู้สึกชอบยิ้ม ชอบอ้าปาก ขึ้นมาทันที

ปกติก่อนหน้านี้ เวลายิ้ม จะยิ้มไม่เห็นฟันตลอดเลย

แต่ว่า ตั้งแต่ถอดเครื่องมือหมดแล้ว ยิ้มเห็นฟันตลอดตลอดเลย อิอิ






ความจริง ยังไม่พอใจ 100%  หรอกนะ กับลักษณะของฟันในตอนนี้

แต่คิดว่า พอแล้วดีกว่า ไม่ทำต่อแล้ว เพราะรู้สึกว่า หลัง ๆ มานี้ ยิ่งทำ ยิ่งไม่ชอบ

ตอนนี้ยังพอโอเครับได้ ก็หยุดทำแค่นี้ดีกว่า พอใจในระดับนึง

แล้วอีกอย่าง ฟันล่าง เริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้วอ่ะ เหงือกเริ่มร่นแล้ว



ถอดเครื่องมือหมดแล้ว ก็ต้องใส่รีเทนเนอร์ต่อ

ของเรา ใส่รีเทนเนอร์ 2 ชิ้น

คือ แบบติดแน่นกับฟันด้านใน และแบบใสถอดได้

เดี๋ยวถ่ายรูปฟันและรีเทนเนอร์แล้ว จะมาอวดอีกที

แต่ว่า พูดไม่ถนัดเลย เหมือนอมอะไรไว้ตลอดเวลา

ปากก็อูม ๆ คงเพราะยังไม่ชิน น่าจะต้องรออีกซักระยะแหละ ^^




.....


Happy Wednesday ka .. :)


...

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เลือกรีเทนเนอร์



01-12-17


โค้งสุดท้ายของการจัดฟัน ...

ก็จะต้องมีการตัดสินใจว่า จะเลือกรีเทนเนอร์แบบไหนดี ??


      รูปจาก Google


คุณหมอแนะนำให้เราเลือกใช้รีเทนเนอร์แบบติดถาวร

เนื่องจาก ฟันของเรา ค่อนข้างเคลื่อนตัวช้า และมีความยากในการรักษา

เมื่อจะถอดเครื่องมือจัดฟัน คุณหมอจึงแนะนำให้เราใส่รีเทนเนอร์แบบติดถาวร



โดยปกติ รีเทนเนอร์ทั่วไป จะมีลักษณะเป็นลวด และมีในส่วนของเพดานปาก

แต่รีเทนเนอร์ตัวที่เราจะใช้ จะเป็นแบบติดอยู่กับฟันเลย - นี่คือชิ้นที่ 1

ส่วนอีกชิ้นนึงคือ เป็นส่วนที่ต้องใส่ไว้ตลอดเวลา และถอดเฉพาะตอนทานอาหาร

ซึ่ง ลักษณะการใช้งานจะเหมือนกับแบบลวดปกติ แต่ต่างกันแค่รูปลักษณ์ภายนอก



สำหรับรีเทนเนอร์ที่คุณหมอแนะนำเรา จะเป็นลักษณะนี้ ติดอยู่ที่ฟันด้านในตลอดเวลา


รูปจาก Google


ส่วนอีกชิ้นนึง ที่เป็นแบบต้องใส่ไว้ตลอด และถอดตอนทานอาหาร จะเป็นลักษณะนี้



   รูปจาก Google


ซึ่งก็ต้องใส่ทั้งฟันบนและฟันล่าง


   รูปจาก Google


เราว่า มันก็โอเคนะสำหรับแบบนี้

คือ มีแอบฉุกคิดว่า เอ๊ะ หรือจะใส่แบบที่เป็นลวดดี ???

แต่ ถ้าใส่ตามที่คุณหมอแนะนำ น่าจะดีกว่า

เพราะ คุณหมอแนะนำว่าเหมาะกับเรา เราก็ว่า มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราแหละ



เราคิดว่า จัดฟันรอบนี้ น่าจะเป็นรอบสุดท้ายแล้ว ไม่มีจัดฟันครั้งที่ 4 แล้ว...

กว่าจะได้ฟันสวย อายุปาเข้าไปตั้ง 32 อิอิ


วันพุธหน้า (6 ธันวา) เราจะไปถอดเครื่องมือแล้ว

นัดคุณหมอไว้ตอนบ่ายโมง เห็นคุณหมอบอกว่า ต้องทำหลายอย่างเลย

ตื่นเต้นสุด ๆ อยากอวดยิ้มสวย ๆ แบบไม่มีเหล็กจัดฟันแล้วแหละ


.....


ก่อนหน้านี้ ช่วงประมาณต้นปี เคยถามคุณหมอว่า จะจัดฟันเสร็จทันปีหน้ามั้ย

เพราะตอนแรก แพลนไว้่า จะแต่งงานต้นปีหน้า

คุณหมอบอกว่า ทันแน่นอนค่ะ

ทันของคุณหมอ ก็คือ ถอดเครื่องมือเดือนสุดท้ายของปีนี้พอดีเลย

แหม... ทันปีหน้าจริง ๆ อิอิอิ


.....


Happy Friday ka ... :)


.....

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

น้องก้านกล้วย



19-11-17


เวลาเราทำผมแบบนี้ ไมค์ชอบบอกว่า เราสวย เป็นก้านกล้วย อิอิ






เราก็ชอบนะ อิอิ

ก่อนหน้านี้ ได้แต่ทำผมตรง ๆ ธรรมดา พอมาทำผมหยิก ๆ ก็ชอบดีเหมือนกัน

รู้สึกหัวไม่ลีบไม่แบน ดูมีผมขึ้นมาหน่อย อิอิ






.....



ไมค์ชอบให้เราแต่งตัวสวย ๆ ใส่กระโปรงไรงี้

จะโป๊ จะเซ็กซี่แค่ไหน ไม่เคยว่า แต่ขอให้ใส่กระโปรง

อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ชุดลายดอก และ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น





นิสัยเราก็แบบ ชอบลายดอก กับเสื้อยืดกางเกงขาสั้นซะด้วยสิ อิอิ

นี่ก็เริ่ม ๆ เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวบ้างแล้วนะ เริ่มใส่ชุดกระโปรงสีพื้น ๆ เรียบ ๆ

เออ มันก็ดูสวยดี ชอบอยู่เหมือนกันนะ



.....

วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ปีหน้า พาลูกมาไหว้ด้วยนะ ^^



18-11-17


วันนี้ ตรงร้านไมค์มีไหว้เจ้า มีงิ้ว

หม่าม๊าไมค์เลยให้เรา ทำอะไรซักอย่าง เราจำไม่ได้แล้วอ่ะว่าเรียกว่าอะไร

แต่ให้อุ้มตุ๊กตาไม้ กับ รับหมวก จากงิ้ว

เสร็จแล้วก็อธิษฐาน ม๊าบอกว่า เค้าให้อธิษฐานขอพร , ขอให้มีลูก อะไรพวกนี้

เราก็ทำตามที่หม่าม๊าบอก

ประมาณทุ่มกว่า ๆ ก็มีงิ้วนำหมวกกับตุ๊กตาไม้มาให้เรา

ตอนเรารับตุ๊กตาไม้ หม่าม๊าบอกให้เราอุ้มเหมือนอุ้มเด็ก :D

แต่ไม่ได้บอกเราไว้ล่วงหน้า มาบอกตอนเรากำลังรับตุ๊กตาไม้แล้ว

เราก็เลยไม่ได้ทำท่าอุ้มเด็กเลย แค่รับแล้วไปวางไว้เฉย ๆ









พอรับตุ๊กตาไม้ กับหมวก แล้ว อาม่าที่คอยบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็ให้เราอธิษฐาน

แล้วบอกกับเราว่า ให้ปีหน้า เราพาลูกมาไหว้ด้วยนะ (>.<  )"



เราอธิฐานว่าอะไร ??? อิอิ ไม่บอก........

หม่าม๊าก็ถามเราว่า เราอธิษฐานว่าอะไร เราก็ไม่บอก ได้แต่อมยิ้ม ^^




.....




อยากให้ถึงปีหน้าเร็ว ๆ :)




.....

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เดือนหน้าถอดเหล็กจัดฟันแย๊ว...



16-11-17


เมื่อช่วงต้นเดือน มีนัดกับหมอฟัน

คุณหมอถามว่า คิดว่าฟันตอนนี้พอใจรึยังคะ

เราตอบกลับไปว่า พอใจแล้วค่ะ

ในใจคิดว่า ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หรอกนะ อยากให้ฟันเข้าไปมากกว่านี้

แต่ก็ไม่อยากปรับแก้อะไรอีกแล้ว กลัวจะยิ่งไม่ชอบไปกันใหญ่

คุณหมอพูดกลับมาว่า เป็นข่าวดีนะคะ ที่เรามีความเห็นตรงกันว่าพอใจแล้ว

(ห้าห้าห้า)



ต้องเล่าให้ฟังก่อนนิดนึง

คือ เราจะเป็นคนที่ค่อนข้างจุกจิกกับฟันมาก

จะคอยสังเกตุตลอดทุกวันว่า ไปพบคุณหมอครั้งนี้ ดึงฟันตรงนี้ ทิศทางของฟันเป็นยังไง

เบี้ยวไปมั้ย ฟันเอียงรึเปล่า อะไรแบบนี้ คือ จะคอยช่วยคุณหมอดูผลลัพธ์ที่ได้ตลอด



จนคุณหมอคงจะเกรงใจเรา เพราะเราจุกจิก

พอฟันเอียงนิดเอียงหน่อย คุณหมอก็ต้องคอยปรับให้ตามเราบอกทุกครั้ง

บางครั้งก็ดึงแบร็คเกตออกแล้วติดใหม่ในทิศทางที่ต้องการให้ฟันสวยถูกใจ

ทำแบบนี้ทุกเดือน ๆ เลย

ยิ่งช่วง 2 ปีหลังนี่ ดึงแบร็คเกตออกแล้วติดใหม่แทบจะทุกครั้งที่ไปพบคุณหมอเลย

ทั้งติดเครื่องมือหน้าตาประหลาดต่าง ๆ ทั้งเสาอากาศ หมุดที่อยู่ในเหงือก บลา ๆ ๆ



เวลาในการจัดฟันก็เลยล่วงเลยมาถึง 4 ปีเต็ม ๆ (ทั้ง ๆ ที่เป็นการจัดฟันครั้งที่ 3 นะ)

พอในครั้งนี้ที่คุณหมอถามเรา แล้วเราบอกเราพอใจแล้ว คุณหมอคงโล่งใจ (เอิ๊ก ๆ)



วันนี้เลยถ่ายรูปตัวเองตอนยังจัดฟันเก็บไว้ซักหน่อย

เดี๋ยวพอถอดเหล็กออก จะเอามาเปรียบเทียบกันอีกที :)




















.....



2 รูปสุดท้ายนี้ เป็นรูปถ่ายหน้าตรง กับด้านข้าง เพื่อให้เห็นฟันชัด ๆ หน่อย




จะสังเกตุได้ว่า แบร็คเกตของฟันหน้าด้านขวา (ด้านซ้ายของรูป) จะเอียงลงด้านล่าง

เนื่องจาก กำลังปรับฟันซี่หน้า ให้ตั้งตรง จึงดูฟันเอียงไปหมด

เราก็กังวลใจนะ จนลองไปรีทัชแบร็คเกตที่เอียง ๆ ออกดูว่า ฟันเอียงมากมั้ย

หรือว่า แบร็คเกตเอียง เลยหลอกตาว่าฟันเอียง

สรุปก็คือ โอเคแล้วแหละ คงน่าจะพอแค่นี้ ไม่อยากปรับอะไรอีกแล้ว อยากถอดเหล็กแล้ว ^^"




ส่วนรูปนี้ เป็นรูปอ้าปากด้านข้าง ไว้เปรียบเทียบความเหยินของฟัน

ส้มมีถ่ายรูปไว้ตลอดระยะเวลาจัดฟัน 4 ปีที่ผ่านมาเลยนะ

ไว้เดือนหน้า ถอดเหล็กเรียบร้อยแล้ว จะเอารูปมาให้ดู

ตั้งแต่ช่วงแรกของการจัดฟัน จนถึงตอนถอดเหล็กเลย

แล้วทุกคนจะต้องร้อง อ๊ะจ๊ากกกกกกกกกกกก... :D




.....


ปล. ช่วง 2 ปีแรกของการจัดฟัน เราเลือกจัดฟันแบบเซรามิกนะ

พอมา 2 ปีหลังนี้ คุณหมอบอกว่า แบบเซรามิก น่าจะไม่เวิร์ค จึงขอเปลี่ยนเป็นแบบธรรมดา

ซึ่งเราก็ โอเค ๆ ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ฟันสวยก็พอ

ที่คุณหมอต้องขออนุญาติเราก็เพราะว่า แบบเซรามิก ราคาจะสูงกว่าแบบธรรมดา

แล้วเราก็จ่ายเงินครบไปหมดตั้งแต่ 2 ปีแรกแล้ว



จะว่าไป คุณหมอที่เราจัดฟันด้วยนี่ ดีมาก ๆ เลยนะ

เราจ่ายเงินครบไปตั้ง 2 ปีแล้ว

แต่เค้าก็ยังคอยดูแลให้เรา จนกว่าเราจะพอใจมาอีก 2 ปีแหน่ะ

เห็นเคสของคนอื่น ที่จัดฟันกับคุณหมอที่อื่นนะ

พอจ่ายเงินครบ บางคนยังไม่พอใจฟันของตัวเองเลย

แต่คุณหมอก็ถอดเหล็กแล้ว



ถือว่า เราโชคดีมาก ๆ ที่เจอคุณหมอใจดี ^^




.....

ไปเรียนทำขนม 1 เดือน , ได้อะไรมาบ้างนะ




16-11-17


1 เดือน กับการเรียนทำขนม ผ่านไปไวมาก ๆ

ได้ความรู้ และ ความสนุกมาเพียบเลย

คืนสุดท้าย ก่อนวันที่จะไปเรียนวันสุดท้าย เรารู้สึกเสียดายมาก

ไม่อยากให้คอร์สนี้จบเลย อยากเรียนไปเรื่อย ๆ ^^`




คลาสของเรา มีเรียนทั้งหมด 7 คน

แต่ละคนก็มาจากคนละที่ คนละอาชีพ คนละประเทศ

ได้มาเจอกันทุกวัน ๆ เป็นเวลา 1 เดือน เรารู้สึกว่าแอบผูกพันเล็ก ๆ กับคนกลุ่มนี้




วันสุดท้ายของการเรียน คุณครูประกาศผลสอบ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ศศิริน สอบได้ที่ 1 ของคลาสค่ะ




แปลกใจอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่า เนิบ ๆ ช้าสุดของคลาสแบบเรา จะสอบได้ที่ 1 ของคลาส :)

การมาเรียนทำขนม ทำให้เรารู้ว่า เราเป็นคนที่ ... ทำอะไร ชักช้า อืดอาด ยืดยาด มากกก...

สังเกตุได้จาก ทุกคนในคลาส จะทำขนมเข้าเตาอบกันเสร็จเกือบหมดแล้ว

ในขณะที่ เรายังคงง่วนกับการทำขนมของเราไม่เสร็จเลย

เนิ่บ ๆ ของเราไปเรื่อย ๆ มีคุณครูคนนึงแซวเราว่า เราทำแบบชาววัง

เพราะ มัวแต่ประดิดประดอย (ห้าห้าห้า)




.....




แปะรูปผลงานฝีมือของเราให้ดูบางส่วน (เพราะ ช่วงแรก ๆ ที่เรียน ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปสวย ๆ เลย)

เป็นขนมที่ฝึกทำที่โรงเรียน แล้วหอบกลับมากินที่บ้านทุกวัน ตลอดระยะเวลา 1 เดือน

กินกันจนที่บ้านเอียน ช่วงหลัง ๆ ของการเรียน เริ่มเกี่ยงกันกินแล้วอ่ะ (อิอิ)



เริ่มจาก พวกขนมเค้ก สปันจ์ ชิฟฟ่อน ก่อนก็แล้วกัน (เพราะเราชอบทำมากกว่าขนมปัง)


นี่คือ เค้กก้อนแรก จากฝีมือของเราเอง เป็น บัตเตอร์เค้ก




เป็นการแต่งหน้าเค้กก้อนแรกในชีวิตของเราเลยนะ

ภูมิใจสุด ๆ `^^




แต่ว่า ปาดครีมหนามาก (อิอิ) ตัดเค้กออกมา โอ้โห... หนา 1 ซม. ได้มั๊ง

คนกิน จะกินไหวมั้ยเนี่ย เลี่ยนตายซะก่อน (ห้าห้าห้า)




บัตเตอร์เค้กอีก 1 ชิ้น มาจากการทำครั้งเดียวกัน แต่ชิ้นนี้ เทลงพิมพ์สี่เหลี่ยม






สปันจ์เค้กรสส้ม




สำหรับตัวเราเอง เราชอบกินสปันจ์เค้กสุดเลยนะ

ทำเค้กทุกวัน ๆ ๆ วันละ 2 ปอนด์ ชิมไปชิมมา ชอบเนื้อสัมผัสของสปันจ์สุด

กินแล้วรู้สึกว่า ไม่หนักจนเกินไป (ในความคิดของเรานะ)




เค้กช็อคโกแลต แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีมเป็นรูปพวงมาลัย




ชิ้นนี้ เคยเห็นแต่เค้าขายกัน ไม่คิดเลยว่า จะได้ทำด้วยตัวเอง

ไม่ยากอย่างที่คิดนะ เพียงแต่ การวางตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บนเค้ก มีส่วนสำคัญที่สุด

หากวางตำแหน่งไม่สวย ภาพโดยรวมของเค้กก็จะออกมาไม่สวย




ในความคิดของเรา สำหรับเค้กชิ้นนี้ ยากสุด น่าจะเป็นการทำกลีบกุหลาบทั้งหลายให้ได้กลีบสวย ๆ

ถ้าเราหัดทำบ่อย ๆ อีกนิด น่าจะสวยได้มากกว่านี้นะ






ม็อคค่าเค้ก แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีมและช็อคบอล









อันนี้ เค้กไรหว่า จำไม่ได้ (ห้าห้าห้า) แต่งหน้าด้วยดอกคาร์เนชั่นสีแดงสด






เค้กก้อนสุดท้ายที่ทำในวันสุดท้ายของการเรียน เป็นบัตเตอร์เค้ก แต่งหน้าด้วยแยมแบบแฟนซี









ต่อไปก็จะเป็นพวก โรลต่าง ๆ รวมถึงเค้กชิ้น ๆ


เริ่มที่ โรลนุ้งหมาน้อย




ตั้งใจทำเป็นตัวลิลลี่ แต่หลายคนบอกไม่เหมือนลี่ เพราะ ปากไม่มอมแมม (ห้าห้าห้า)






เค้กผลไม้ ชิ้นนี้ก็อร่อยนะ

แต่เราไม่ค่อยชอบหน้าตาของเค้าซักเท่าไหร่ ดูไม่ค่อยน่าหม่ำยังไงก็ไม่รู้






อัพไซด์ดาวน์เค้ก







เค้กกล้วยหอม







โรลช็อคโกแลต







ชิ้นนี้ อะไรหล่ะ จำชื่อไม่ได้







คัสตาร์ดชิฟฟ่อน







ชิฟฟ่อนใบเตย







ช็อค (โกแลต) บอล







บรรดาขนมปังทั้งหลาย














































.....




โดวก้อนแรกในชีวิตของเรา




การบีบครีมเป็นดอกกุหลาบ ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของเราอีกเหมือนกัน

ดอกกุหลาบดอกซ้ายสุดแถวบน คือดอกแรกในชีวิตเลย มันก็จะใหญ่หน่อยนะ (เอิ๊ก ๆ)

พอตอนหลัง พัฒนาขึ้นมาก คุณครูยังชมเลยว่า บีบกุหลาบได้สวย มาถามว่า เราบีบกี่กลีบ

คำตอบคือ ไม่รู้ค่ะ บีบตามความรู้สึกเอา ว่า ถ้าสวย ก็คือ พอ ไม่เพิ่มกลีบแล้ว (อิอิ)




วันแรกที่เรียนแต่งหน้าเค้ก คุณครูให้หัดปาดครีมบนก้อนโฟมก่อน

หน้าตาเค้กปลอมก้อนแรกในชีวิตของเรา




เราชอบหวีลาย ลายนี้นะ ง่ายอ่ะ แต่ จบไม่ค่อยลงทุกที ต้องเอากุหลาบมาวางปิด ๆ ไว้ (อิอิอิ)






.....




เป็นการเรียนทำขนมที่ประทับใจค่อนข้างมาก

ทั้งเพื่อนในคลาส ทั้งคุณครู สถานที่ บลา ๆ ๆ ชอบไปหมดทุกสิ่งอย่าง

ถ้ามีเวลา จะไปลงเรียนคอร์สอื่นอีกแน่นอน

ตอนนี้ เล็ง ๆ มาการองเอาไว้ รอหาจังหวะที่เหมาะ ๆ ก่อน ^^




.....