วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

3,953 วัน



30-01-17


3,953 วัน ...

ไม่ใช่เวลาน้อย ๆ เลยเนอะ .. เกือบ ๆ จะ 11 ปีเลยนะ

มานึก ๆ ดู ก็น่ามหัศจรรย์เหมือนกัน ที่มีคนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง
แต่อยู่กับเราได้นานขนาดนี้ ด้วยความรู้สึกล้วน ๆ




3,953 วัน ที่.. มีรอยยิ้ม
3,953 วัน ที่.. มีเสียงหัวเราะ
3,953 วัน ที่.. มีน้ำตา (บ้าง ในบางวัน)
3,953 วัน ที่.. เรามีกันและกัน



3,953 วัน ตัวเลขนี้ สำคัญยังไง ?

นั่นสิ ... นะ


.....




31-01-17
คือ วันเริ่มต้นเปิดหนังสือชีวิตบทใหม่ของเรา
ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ เริ่มต้นใหม่ใน วันที่ 31 มกราคม 2560


.....

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ทำวัตรเย็นที่บ้าน



16-01-17


ความจริงแล้ว วัดปทุมวนารามฯ กับ บ้านของเรา
ใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 30 นาทีหรอก
แต่ว่า กว่าเราจะเลิกงาน ก็ 6 โมงเย็น
แล้วที่วัดจะเริ่มทำวัตรเย็นตอน 6 โมงครึ่ง
ดังนั้นเนี่ยะ เราอาจจะไปทันพอดี แต่ก็ต้องรีบ
หรือ อาจจะไปไม่ทัน หากมีอะไรผิดพลาด


เราจึงตั้งใจว่า
เราจะไปสวดมนต์ทำวัตรเย็นที่วัด เฉพาะวันพระ และ ทุกวันเสาร์
ส่วนวันอื่น ๆ ก็จะขอทำวัตรเย็นที่บ้านแทน น่าจะเหมาะที่สุด


วันนี้ เราทำวัตรเย็นเองที่บ้านเป็นครั้งแรก
เมื่อวันเสาร์ เราไปทำวัตรที่วัด ได้อัดเสียงตอนสวดมนต์มาด้วย
วันนี้ เราก็เลยเปิดเสียงสวดมนต์ที่อัดไว้ แล้วสวดมนต์ตาม ^^


ถามว่า ทำวัตรเย็น ช่วยอะไรเราได้บ้าง
เราว่า มันช่วยทำให้เรามีสติ มีสมาธิ ในช่วงเวลาหนึ่งของวัน
อย่างน้อย ก็ช่วงที่สวดมนต์เกือบ ๆ จะ 1 ชั่วโมงนั่นแหละ

เพราะ
หากในขณะที่เราสวดมนต์ แล้วจิตใจของเรา ล่องลอยไปคิดถึงเรื่องอื่น
เราก็ไม่สามารถที่จะสวดมนต์ได้ถูกต้อง
ยกเว้นว่า บางคนที่สวดได้จนคล่องแล้ว
ถ้าไม่มีสมาธิ จิตใจคิดเรื่องอื่น แต่ปากก็ท่องบทสวดไป อันนี้ก็อีกเรื่องนึง
ซึ่ง ตัวเราเอง ไม่ได้เป็นแบบนั้น

^^




.....


Happy Monday ka... :)


.....

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

Ice-Cream TIME ^^.



15-01-17


สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ไม่รู้ยังไง
อยากแต่จะถ่ายรูปตัวเองกับไมค์ตอนหม่ำ ๆ ^^

จะมีอยู่ช่วงนึงนะ ไม่ค่อยอยากถ่ายรูปตัวเองซักเท่าไหร่
นานเหมือนกันนะ เป็นปีเลย

พอมาช่วงนี้ บ้าถ่ายรูป
ก็เลยมีรูปตอนหม่ำเต็มไปหมดเยย...
ชดเชยกับช่วงที่ไม่ได้ถ่าย ^o^


วันนี้ ไปหม่ำไอติมซเวนเซ่น แล้วก็ หม่ำชูโรส

กินไป ถ่ายรูปไป สนุกตลอด
ชอบตัวเองตอนกิน ไม่ว่าจะกินอะไร ก็ชอบทุกอย่าง
(ต้องกินกับไมค์นะ ถ้ากินคนเดียว ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่)






ถ่ายรูปไปด้วย กินไอติมไปด้วย เป็นอะไรที่ยากลำบาก
ไอติมก็จะละลาย รูปก็จะต้องถ่าย
สุดท้าย หยดเลอะเทอะเต็มโต๊ะไปหมด :D






อ่ะ ไมค์ หม่ำ ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวส้มป้อนให้




เอ้า ... ทำไม ไมค์ไม่ป้อนส้มบ้างล่ะ






หน้าตาของส้มแต่ละรูป ยิ่งตอนป้อนไอติม ปากงี็... สวยเชียะ... (ห้าห้าห้า)


.....


นอกจากไอติมซเวนเซ่นแล้ว
ก็ยังลองกินชูโรสด้วย




ความตั้งใจแรกคือ อยากกินแต่ชูโรส
แต่ เค้ามีโปรโมชั่น เพิ่มอีก 10 บาท จะได้ไอติมโยเกิร์ตด้วย
เราก็เลยเพิ่มอีก 10 บาท




สรุป ชูโรสไม่อร่อยเลย แต่ ไอติมอร่อยมาก ^^"
ดีนะ ราคาไม่แพง แค่ 59 บาท


.....


Happy Sunday ka... :)


.....

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560

สุกี้โบราณไทม์...



10-01-17


วันนี้ ไม่รู้จะกินอะไร ก็เลยไปจามจุรีสแควร์
หม่ำ ๆ สุกี้โบราณกัน

ในตอนแรก ตั้งใจจะกินเอี้ยวฮั๊วะ แต่... ไมค์เห็นป้ายโฆษณาของอีกร้าน
เราก็เลยไปลองชิมร้านที่ยังไม่เคยกินดีกว่า เป็นสุกี้โบราณหมือนกัน
แต่ เป็นแบบบุฟเฟ่ท์ เรากินคนละ 199 บาท
เซทของเรา มีแต่หมู


หน้าตาก่อนกิน เริงร่ากันมาก






หารู้ไม่ว่า ต่อไปในอนาคต ชะตากรรมความอร่อยในวันนี้ .......... ไม่อยากจะพูดดดด (อิอิอิ)




กินไปเรื่อย ๆ ไมค์ก็ถ่ายรูปให้
หน้าตาตอนกินของเรา แหม... สวยจริง ๆ










เห็นท่าทางการกินแบบนี้ เหมือนจะอร่อยมากเลยนะ
แต่ พอไมค์ถามว่า จะกลับมากินอีกมั้ย..


เราทำหน้า... ประมาณว่า อะไรนะ ไมค์ยังคิดจะกลับมากินอีกหรอ (ห้าห้าห้า)




คือ น้ำซุปจืดมากกกกก.. เหมือนกินน้ำเปล่าต้มกับผัก ใส่หมู
เราขอซีอิ๊วขาว พนักงานแจ้งว่า ไม่มีให้

เราเลยบอกกับไมค์ว่า แม่ครัวที่ร้านนี้ แน่นอนจริง ๆ
ไม่ให้ลูกค้าปรุงอะไรเลย เพราะมั่นใจว่า อร่อยแน่ ๆ อิอิ

ส่วนรสชาดของน้ำจิ้ม อาจจะไม่ถูกปากเรากับไมค์
เราสองคนลงความเห็นว่า น้ำจิ้มไม่อร่อย
แต่ คนอื่นอาจจะอร่อย (รึเปล่า ไม่แน่ใจ เพราะก็เห็นคนอื่นกินกันหนุบหนับ ๆ)


ก็ไม่เป็นไร กินให้รู้ว่า ร้านนี้ เป็นยังไง
ถ้า อร่อย ก็กลับมากินอีก
ถ้า ไม่อร่อย ก็บ๊ายบาย ครั้งเดียวพอ ^^


.....


Happy Tuesday ka...:)


.....

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

ตัดผมสั้น



02-01-17


...ไดอารี่ย้อนหลัง...


เราตัดผมไปเมื่อวันที่ 2 มกรา
แต่เขียนไดอารี่หน้านี้ วันที่ 17 มกรา


ความคิดที่อยากจะผมสั้น กลับมาอีกแย๊วววววววววว.......
ปลายปีที่แล้ว เดือนพฤศจิกายน เราก็ตัดผมสั้น
ปลายปี 2016 ก็คิดอีก แต่ ยังไม่ได้ตัด

พอปิดปีใหม่หลายวัน บวชเนกขัมมะเรียบร้อย
ก็มาส่องกระจก มองตัวเอง รู้สึกว่า โทรมจัง
ตัดผมสั้นดีกว่า เผื่อจะช่วยให้อะไรดีขึ้น




พี่นัท (ช่างตัดผมประจำ) ยังไม่ตัดให้สั้นมากตามที่ต้องการ
เราก็ โอเค ๆ เอาแค่นี้ก่อน ถ้าอยากสั้นกว่านี้ ค่อยมาตัดอีกทีครั้งหน้า




แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกัน กลัวจะงอแง อยากผมยาวอีก
เพราะตอนก่อนตัด ผมยาวถึงกลางหลังแล้ว

แต่...

พอตัดผมสั้นแล้ว
มีแต่คนชม ว่า โอเคกว่าตอนผมยาว
แม้กระทั่งไปนั่งกินข้าวตามร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟก็ยังเอ่ย
หรือ ถ้าเป็นร้านที่ไปกินบ่อย ๆ เค้าก็จะทัก

ไอ้เราก็ หึหึหึ ต่อไปนี้นะ ไม่ไว้ผมยาวละ
ประเภทบ้ายอไง (ห้าห้าห้า)




ไมค์แซวเราว่า รู้งี้ ตัดนานแล้ว ให้ไว้ผมยาวอยู่ได้ (ใช่ ๆ ๆ ให้ไว้ผมยาวอยู่ได้) :P




สรุปแล้ว พอตัดผมมา ความยาวเท่านี้ เรากลับไม่พอใจ
เพราะมันยาวพอดีช่วงคอเสื้อด้านหลัง
ต่อให้ทำผมยังไง พยายามแค่ไหน ผมด้านหลังก็เป็ดอยู่ดี
เลยตั้งใจว่า เดือนหน้า ตอนไมค์ไปตัดผม เราจะขอตัดให้สั้นเหนือหัวไหล่อีกนิด
ให้ไม่โดนคอเสื้อ เพราะ นอกจากผมจะเป็ดแล้ว ยังรู้สึกรำคาญด้วย




สรุปแล้ว
การตัดผมครั้งนี้ พอใจมาก ๆ มากกว่าที่ตัดเมื่อปีที่แล้วอีก
คิดว่า คงจะไม่ไว้ผมยาวอีกเป็นปีเลย ^^


.....


Happy Tuesday ka... :)


.....

HNY : 2017



02-01-17


หลังจากลาศีล และนอนสลบเหมือด 15 ชม. รวด
วันนี้ ก็ไม่มีโปรแกรมไปไหน
นอกจากช่วงหัวค่ำ ไปหม่ำมื้อเย็นกัน

แต่ต่างจากทุก ๆ ปีคือ ปีนี้ ไปหม่ำมื้อเย็นกับอากุงอาโผ่ และญาติ ๆ ของส้ม (ฝั่งพ่อ)

ส้มกับไมค์ ไปถึงช่วงประมาณ 6 โมงเย็น
ไปถึง ก็เจอหมูพริม ^^




พริมเป็นเด็กที่ แก้ม น่าฟัดมากกกกกกกกกก 
เห็นแก้มแล้ว น่าบีบ ^^ เหมือนแก้มจะแตกเลย (อิอิอิ)


 

    อาโผ่กับนุ้งพริม


    ป้าแป้งกับนุ้งพริม


เราได้อุ้มเจ้าหมูพริมแก้มอ้วนด้วย (วันนี้ ถือว่า น้าส้มได้อุ้มหลานครั้งแรกเลย ^^)




พออาหารเตรียมเรียบร้อย ก็จัดโต๊ะ และลงมือ...






























ก่อนกลับ ถ่ายรูปรวมอีกนิด ^^.
ดู ๆ ไปแล้ว ญาติเราเยอะนะเนี่ย เกือบ 40 คนแน่ะ

เรามีญาติมาจากเมืองจีนด้วย
เป็นน้องชายของอากุง

รูปนี้ มี 4 เจเนอเรชั่น ของตระกูลเรา
คือ รุ่นที่ 24 , 25 รุ่นของเราคือ รุ่นที่ 26
และรุ่นที่ 27 คือ รุ่นของหมูพริม

แอบตกใจตัวเลขรุ่น
โอ้โห... ตระกูลเรา มาถึงเราตอนนี้ มี 27 รุ่นแล้ว
ทำให้อยากรู้เลยว่า คนรุ่นที่ 1 นั้น
เกิดมาในยุคสมัยไหน ในเมืองจีน ^^.




เป็นอีก 1 วัน ที่มีรอยยิ้ม


.....


Happy New Year ka... :)


.....

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

บวชเนกขัมมะครั้งแรกในชีวิต



30-12-16 ถึง 01-01-17


ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจ ให้อยากไปวัด ปฏิบัติธรรม
จึงเริ่มหาข้อมูล
และ วัดที่สะดวกที่สุด ก็คือ วัดปทุมวนารามฯ
เราไปถวายสังฆทานกับไมค์ที่วัดนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
จึงทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยาก ว่าจะมาบวชเนกขัมมะที่นี่

ครั้งแรกกับการบวช และเป็นการไปบวชคนเดียว
หลายคนถึงกับแปลกใจ
ทั้งเจ้าหน้าที่ที่วัด และเพื่อนที่นอนมุ้งข้าง ๆ
รวมถึงคนอื่น ๆ ที่ได้พูดคุยด้วย
เพราะ คนส่วนใหญ่ หากเป็นการบวชครั้งแรก
มักจะไม่มีใครไปบวชคนเดียว ^^

เราหาข้อมูลในอินเตอร์เนต
ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้
รวมถึงกิจวัตรในแต่ละวันที่ต้องทำ

เราไปซื้อชุดล่วงหน้าก่อนถึงวันบวช 1 สัปดาห์




ซื้อมาแล้วก็ซักรีด แล้วนอนนับวันรอ
เมื่อไหร่น๊า... จะถึงวันไปวัดซักที




และวันที่รอ ก็มาถึง..

ความจริง เราถือศีล 8
การจะแชท หรือ ถ่ายรูปต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ
แต่เราก็อดไม่ได้ ขอถ่ายรูปนิดหน่อย แหะ ๆ


30-12-16

เราไปถึงวัดประมาณบ่ายสามโมงกว่า เกือบ ๆ จะสี่โมง
คนไปบวชค่อนข้างเยอะ
เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว
และหลายคนอยากมาสวดมนต์ข้ามปีที่วัด

เมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็ลงไปกางมุ้งใต้ศาลา และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมบวช




วันแรกที่เราไป ไม่รู้จักใครเลย ทำทุกอย่างคนเดียวทั้งหมด
แต่ก็ดีไปอีกอย่างนะ ทำให้จิตใจของเรา มีสมาธิ ไม่วอกแวกไปกับเรื่องอื่น ๆ

กิจวัตรที่ทำในวันแรก
เนื่องจากเราไปถึงค่อนข้างเย็นแล้ว
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ บวชเรียบร้อย
เราก็นั่งอ่านหนังสือสวดมนต์ และนั่งสมาธิไปได้ซักพัก
ก็ถึงเวลาทำวัตรเย็น

วันนี้ (30 ธ.ค. 59)
แม่ขาวยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ (ถ้าเทียบกับวันที่ 31)
(แม่ขาว คือคำใช้เรียกแทนคนที่มาบวชเนกขัมมะ)

เราไม่เคยทำวัตรเย็นมาก่อนเลย
พูดไปก็แอบอายตัวเอง
ตั้งแต่เกิดมา
บทสวดที่สามารถท่องได้โดยไม่ต้องอ่านหนังสือสวดมนต์
มีอยู่ไม่กี่บทเท่านั้น

พอเริ่มทำวัตรเย็น
เราจึงตะลึงมาก ที่คนส่วนใหญ่ภายในศาลา
ไม่ว่าจะเป็นแม่ขาว หรือบุคคลภายนอกที่มาทำวัตรเย็น
เค้าสามารถท่อง
หรืออ่านตามหนังสือสวดมนต์ได้อย่างคล่องและเร็วมาก
ตัวเราเอง แค่กวาดสายตาอ่านตามตัวหนังสือ
ยังแทบจะอ่านไม่ทัน

แต่.. สิ่งที่ชอบที่สุดคือ
เสียงของทุกคนในศาลาขณะที่กำลังสวดมนต์
มันเป็นเสียงที่เพราะมาก ๆ เพราะอย่างบอกไม่ถูก
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงชอบฟังมาก ๆ


ทำวัตรเย็นเสร็จ
นั่งฟังพระเทศน์ แล้วก็นั่งสมาธิอีกนิดหน่อย
ประมาณ 3 ทุ่ม ก็ได้พักผ่อน
กว่าเราจะลงมาใต้ศาลา ก็เกือบ ๆ 4 ทุ่ม
ทุกคน นอนอยู่ในมุ้งกันเกือบหมดละ




ไอ้เรา คนนอนดึก ก็เลยนอนทำตาปริบ ๆ อยู่มืด ๆ ในมุ้ง จนตีหนึ่งกว่า ๆ ถึงได้เผลอหลับไป
พอซัก ตีสอง 45 เราสะดุ้งตื่น ก็รีบไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมทำวัตรเช้าตอนตีสี่


31-12-16

ทำวัตรเช้าเสร็จ กวาดลานวัด แล้วใกล้ ๆ 7 โมงเช้า ก็เตรียมตัวใส่บาตร ในสวนป่าข้าง ๆ ศาลาฯ




ถ้าใครที่ไม่ได้เตรียมอาหารมาใส่บาตร ก็ไม่ต้องกังวล
เพราะจะมีคนมาขายกับข้าว หรือ ถ้าไปที่สหกรณ์ของวัด ก็จะมีพวกอาหารแห้ง
เช่น ข้าวสาร มาม่า




ใส่บาตรเรียบร้อย ก็ขึ้นไปบนศาลา ฟังพระเทศน์
จนประมาณ 8 โมงเช้า ก็จะได้ทานของว่าง เป็นมื้อแรกของวัน

ทานของว่างเสร็จ พักผ่อนตามอัธยาศัย
บางคนนั่งสมาธิ บางคนไปอาบน้ำ บางคนไปนอน
ส่วนเรา นิ๊งหน่อง ๆ รอบ ๆ ศาลา
จนเวลา 10 โมงครึ่ง ก็เตรียมตัวถวายเพลพระ

ถวายเพลเสร็จ ก็ได้เวลาทานมื้ออร่อยของวัน
เรามาอยู่วัด จะได้ทานแค่วันละ 2 มื้อเท่านั้น
หลังจากเที่ยงวันไปแล้ว ห้ามทานอะไรที่ต้องเคี้ยว ดื่มได้แต่น้ำปานะ

สำหรับตัวเรา ที่ปกติ ทานวันละ 5 มื้อ
ถือว่า การทาน 2 มื้อนี้ หนักหนาสาหัสเอาการ
แต่เราตั้งใจไว้ก่อนจะมาวัดแล้วว่า
เราจะต้องหักห้ามใจของตัวเอง และอดทนทำให้ได้

หลังเที่ยง เราจึงดื่มแต่น้ำปานะ
วันนี้ เราดื่มน้ำส้มทิปโก้ไป 6 กล่องแหน่ะ และโอวันตินอีก 3 แก้ว
แหะ ๆ หิวจริง ๆ ได้น้ำปานะลูบท้องนิดหน่อย ถึงจะโอเค


บ่ายวันนี้ คนมาบวชค่อนข้างเยอะ
เนื่องจากคืนนี้ เราจะสวดมนต์ข้ามปีกัน
ทำให้ที่นอนใต้ศาลาเต็ม แน่นเอี้ยด ชนิดที่ว่า ไม่มีทางเดินเลย
คนที่มาช่วงเย็น ๆ บางคนบอกว่า ทางวัดไม่รับลงทะเบียนคนบวชแล้ว
เค้าก็เลยต้องนอนบนศาลาแทนในคืนนี้

กิจกรรมช่วงบ่าย ก็ไม่มีอะไรมาก
นั่งสมาธิ ฟังเทศน์ ช่วงหัวค่ำทำวัตรเย็นตามปกติ

และนั่งฟังเทศน์ สลับกับนั่งสมาธิ จนถึงช่วง 5 ทุ่มนิด ๆ
ก่อนจะเริ่มสวดมนต์กัน มีเวลาได้พักอีกนิดหน่อย
เราจึงรีบไปอาบน้ำก่อน
คืนนี้สวดมนต์เรียบร้อย จะได้นอนได้เลย
เพราะเมื่อคืน ก็แทบจะไม่ได้นอนเลย เริ่มไม่ไหว

ที่ศาลา คนเยอะพอสมควร (ทายซิ เรานั่งอยู่ตรงไหน ^^)




สวดมนต์เสร็จ ทอดผ้าป่า นั่งฟังพระเทศน์ และนั่งสมาธิ
กว่าจะได้นอนคืนนี้ ก็ตีสองกว่า ๆ

หัวเราถึงหมอนปุ๊บ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ตัวเลย
สะดุ้งตื่นอีกทีตอนตีสามครึ่ง รีบไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวทำวัตรเช้าตอนตีสี่


01-01-17

กิจกรรมวันนี้ ไม่แตกต่างจากเมื่อวาน
ตี 4 ทำวัตรเช้า
กวาดลานวัด ทำความสะอาดศาลา ฟังเทศน์
8 โมงเช้า ทานมื้อแรก
11 โมงเช้า ถวายเพล
11.30 ทานข้าว

สำหรับอาหารวันนี้ ค่อนข้างถูกใจเรา
เพราะเป็นวันแรกของปีด้วยมั๊ง เลยทำให้มีคนมาถวายภัตตาหารเยอะ
ทำให้อาหารหลากหลาย แม่ขาวอย่างเราจึงได้รับอานิสงฆ์ไปด้วย




วันนี้ เราทานข้าวเสร็จ ก็ลาศีลเลย




ก่อนกลับ ขอถ่ายรูปกับเพื่อนใหม่ ที่เพิ่งรู้จักกันในวันสุดท้ายของปี
เพื่อนใหม่ของเราชื่อ เปิ้ล ^^




ถือว่า เป็นกิจกรรมดีดี ที่เราได้ทำในช่วงปลายปี
และทำให้เราติดใจ อยากไปวัดอีก

กลายเป็นคนชอบสวดมนต์ ชอบฟังเสียงบทสวดมนต์ไปเลย ^^


.....


Happy New Year ka...


.....