วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Before ^ JANUARY



01-12-2018


ฮาโหล.... ธันวาคม เดือนสุดท้ายของปี 2561 แย๊ววว...

มีหลายสิ่ง ที่ต้องทำมากกกกก.....

เมื่อวาน เราเริ่มจาก การไปเปลี่ยนสีผม ให้เป็นสีที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด

เพราะ เราไม่แน่ใจว่า ต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะมีเวลา หรือสามารถไปทำสีผมได้รึเปล่า




และเราก็เป็นโรคจิต ที่ไม่ชอบเห็นผมตัวเองมี 2 สี

ถ้าทำสีผมที่ไร แล้วพอโคนผมเริ่มยาวเห็นสีดำ ก็จะขัดตาขัดใจเราทุกที

ดังนั้น การทำสีผมให้ใกล้เคียงสีธรรมชาติที่สุด น่าจะเหมาะกับเราในช่วงนี้มากกว่า

ถึงแม้ว่า สีผมที่เพิ่งทำมาเมื่อปลายเดือนกันยายน จะยังสวยอยู่เลย (=.= )"




วันพรุ่งนี้ ... มีนัดทำ Skin Test ภูมิแพ้ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

เพราะเรารู้สึกว่า ช่วงหลัง ๆ มานี้ ร่างกายไม่ค่อยโอเคเลย เจออะไรนิดอะไรหน่อยก็แสดงอาการตลอด

การไปตรวจ น่าจะดีที่สุด เพื่อที่ว่า เราจะได้ระมัดระวังตัวเองในช่วงที่ตั้งท้อง

ให้ตัวเอง ไม่ไปสัมผัสกับสิ่งที่แพ้ จะได้ไม่แสดงอาการต่าง ๆ ที่เคยเป็น




2 สัปดาห์หลังจากนี้ จะเป็น 2 สัปดาห์สุดท้าย ที่เราจะมีเวลาทำนู่นทำนี่ หรือไปไหนมาไหนได้สบายหน่อย

เพราะ ถ้าไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ช่วงกลางเดือนธันวาคม เราจะต้องไปพบคุณหมอแล้ว (เป็นครั้งที่ 2)

และเริ่มกระบวนการกันใหม่อีกครั้ง ... ไปพบคุณหมอ ... ฉีดยา ... พบคุณหมอ ... ฉีดยา ... และ เก็บไข่

กระบวนการเหล่านี้ น่าจะใช้เวลาลากยาวไปถึงช่วงประมาณปลายเดือนธันวาคมเลย

เผลอ ๆ ถ้าจะต้องคาบเกี่ยวไปถึงต้นเดือนมกราคมของปีหน้า

เราก็อาจจะยังไม่ทำอะไรในเดือนนี้ ต้องดูอีกทีแหละว่า จะยังไง กำหนดกะเกณฑ์อะไรไม่ได้จริง ๆ

ดังนั้น แพลนไปเที่ยวในช่วงวันหยุดปีใหม่ของเรา คือ ไม่มี

ไปพบคุณหมอเมื่อไหร่ แพลนเราถึงจะกำหนดได้




อยากไปเที่ยวน๊า..... แต่ก็ไม่อยากเสียเวลาไปอีก 1 เดือน โดยที่ไม่ได้ทำอะไร

เพราะเราก็ไม่รู้ว่า ตัวเราเองนั้น จะเป็นคนท้องง่ายรึเปล่า อาจจะต้องเสียเวลาอีกหลายเดือนก็ได้




แต่ไมค์ก็บอกเราว่า เป็นเดือนมกราของปีหน้าก็ดีนะส้ม

เผื่อว่า ลูกของเรา อาจจะได้คลอดเดือนตุลาคมไง บ้านเราจะได้เกิดเดือนตุลาคมกันทุกคน

เออ... คิดแบบไมค์ ก็ดีเหมือนกันนะ ^^ ทำให้เราไม่เครียดมาก ถ้าจะต้องทิ้งเดือนธันวาคมไปเฉย ๆ


ทุกอย่าง ชะตา ฟ้าลิขิต เค้าขีดมาให้หมดแล้ว

เราไม่สามารถกำหนดกะเกณฑ์อะไรได้จริง ๆ

ได้แต่หวังว่า ... หลาย ๆ อย่าง จะออกมาดีที่สุด เท่าที่ ผู้หญิงคนนึงจะทำได้ :)




.....




ผล Skin Test เป็นยังไง ไว้จะมาอัพเดทอีกที ^^




…..


PS.

มีแอบเผื่อใจไว้นะ ว่า ครั้งแรก อาจจะยังไม่สำเร็จ

ถ้ายังไม่สำเร็จ เราจะไปขึ้นดอยกับเพื่อน ๆ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์

และหากยังไม่มีอะไรคืบหน้า กลางปีหน้า เราจะไปหาเพื่อนที่อเมริกาซักครึ่งเดือน

คิดซะว่า เป็นการไปเที่ยวปลอบใจตัวเอง ^^

อันนี้ คิดเผื่อไว้เฉย ๆ เผื่อต้องผิดหวัง เผื่อต้องเสียใจ

ก็ไปเที่ยวซะเลย จะได้ไม่คิดมาก :D




…..




Happy Saturday ka … :)




…..

อัพเดทชีวิตหลังแต่งงาน



01-12-2018


ชีวิตจริง ๆ กำลังเริ่มต้น ....

หลายอย่างที่ตอนอยู่บ้านไม่ได้ทำ ตอนนี้ ต้องทำทั้งหมด

แต่ ... วัน ๆ นึงของเรา ก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องรับผิดชอบมากนักหรอกนะ

นอกจาก รับผิดชอบเรื่องของไมค์

นอกนั้นก็ ... ไม่มีอะไรเลย .......... จริง ๆ




ตื่นเช้ามา

บีบยาสีฟันเตรียมไว้ให้ เตรียมชุดที่จะใส่ เข็มขัด ถุงเท้า

แล้วก็ออกไปทำงานพร้อมกัน



พอใกล้ ๆ 6 โมงเย็น

เราก็เตรียมไปเก็บเสื้อผ้าชุดที่เพิ่งกลับมาจากซักรีด หากวันไหนตีแบด ก็เก็บชุดตีแบดให้ด้วย



กลับถึงคอนโด

เราก็ซักผ้า ตากผ้า เตรียมผ้าเช็ดตัว ชุดนอน วางไว้ให้คุณชายในห้องน้ำ

อ้อ .. บีบยาสีฟันให้ด้วยเหมือนเดิม



เป็นแบบนี้ ทุกวัน ทุกวัน

จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หม่าม๊าไมค์แซวว่า ไมค์ใกล้จะเป็นง่อยแล้ว (ห้าห้าห้า)



วันไหนคุณชายเค้านอนดึก อิชั้นก็พาลดึกไปด้วย

เพราะเราเป็นคนที่ เสียงอะไรนิดอะไรหน่อย เราจะตื่นง่าย

ยิ่งถ้าหลับไปแล้ว แต่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอื่น ๆ จะอารมณ์เสียสุด ๆ

ดังนั้น การนอนพร้อมกัน คือดีที่สุด



มีอยู่ช่วงนึง เราจะคั้นน้ำส้มให้คุณชายดื่มก่อนนอนด้วย วันละ 1 แก้ว

แต่ คั้นไปได้แค่ 2-3 วัน ก็ไม่สบาย เลยหยุดคั้นไป

หลังจากหายไม่สบาย ก็อารมณ์แปรปรวณ ร้องห่มร้องไห้ อาละวาดคุณชาย

จนปัจจุบันวันนี้ ก็ยังไม่ได้คั้นน้ำส้มให้อีกเลย (เอิ๊ก ๆ)


อารมณ์แปรปรวน ร้องห่มร้องไห้ของเรา หม่าม๊าไมค์บอกว่า น่าจะเกิดจาก เรายังปรับตัวไม่ได้

ร้องไห้กับหม่าม๊าตอนเที่ยงคืนตีหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นก็อาละวาดคุณชาย (อิอิ)



ตอนนี้ ... พอได้อาละวาด มันเหมือนได้ปลดปล่อย โล่ง สบายตูด เอ๊ย ไม่ใช่

โล่ง สบายใจ ตอนนี้ หายเป็นปกติละ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ คั้นน้ำส้มให้กินใหม่น๊า ... จุ๊บ ๆ




.....

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

วันนี้ "ป่วงเซียง" ขอลูกแฝด ^^



09-11-2018


วันนี้ ที่หน้าร้าน มีงานศาลเจ้าวันสุดท้าย

เรากับไมค์มาแต่เช้า เพื่อรอ "ป่วงเซียง"


"ป่วงเซียง" คือ การแสดงความเคารพต่อเทพเจ้า




เรากับไมค์ยังไม่มีลูก

ป่ะป๊า-หม่าม๊า จึงให้เรารับไท้จื้อเอี๊ยะ

ส่วนไมค์ รับหมวกจอหงวน




แล้วขอพรให้มีลูก ให้ได้เด็กฝาแฝดผู้ชาย สมดังที่ตั้งใจ




คนจีน มีความเชื่อว่า

หากใครยังไม่มีลูก การไปรับตุ๊กตาเด็กนั้น จะช่วยทำให้มีลูกได้

ส่วนหมวกจอหงวน จะช่วยให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน








และป่ะป๊ายังบอกอีกว่า ...

ถ้าเราคลอดลูกเป็นฝาแฝดจริง ๆ ป๊ะป๊าจะปิดซอยที่ร้าน เลี้ยงโต๊ะจีนเลย :D


รูปสุดท้ายนี้ ป่ะป๊าบอกให้ทุกคนชูสองนิ้ว เพราะจะได้ฝาแฝด 2 คน


 

เห็นมั้ยเด็ก ๆ

มีแต่คนรอที่จะพบพวกหนู ... มาอยู่กับหม่าม๊าเร็ว ๆ น๊า ... `^^




…..

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

ไม่ได้หายไปไหนน้า...



17-09-18


ไดอารี่หน้านี้ ไม่ได้เขียนเลย
แต่ยังมีเขียนในหมวดอื่น ๆ ตลอด
ตอนนี้ใกล้วันจัดงานแต่งงานแล้ว หลายอย่างวุ่นวาย

เรื่องการ์ด
เราทำแผนที่เอง พิมพ์หน้าซองเอง
ดังนั้น ก็ต้องปริ๊นท์ ต้องตัด ต้องพิมพ์กันทุกวัน
เพราะเริ่มทยอยแจกญาติ ๆ และคนสนิทแล้ว

ช่วงเย็นของทุก ๆ วัน ไม่มีวันไหนว่างเลย
จะได้มีเวลาว่างจริง ๆ แบบว่างยาว ๆ เลย
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะ น่าจะปลายเดือนตุลา
เราจะได้หยุดพักยาวเป็น 10 วันเลย

เพราะแพลนจะใส่ตัวอ่อนช่วงนั้น
ถ้าใส่ตัวอ่อนแล้ว จะต้องใช้ชีวิตแบบ Slow Life
งานการห้ามทำ ลุกนั่งเบา ๆ
ถ้าถึงช่วงเวลานั้นจริง ๆ
เราคงได้มีเวลาสะสางไดอารี่ทั้งหมดที่ค้างมาเป็นปี 😁

ตอนนี้ วัน ๆ นึง มีคิดแค่ 2 เรื่อง
เรื่องจัดงานแต่งงาน กับเรื่องลูก

พอจบงานแต่งงาน ก็หายเครียดพอดี
ใส่ตัวอ่อนช่วงนั้นแหละ เหมาะที่สุด

แต่ก็ยังมีเปรย ๆ กับไมค์เหมือนกันนะว่า
หรือเราจะยังไม่ใส่ตัวอ่อน
แต่งงานกันแล้ว อยู่กันแบบสบาย ๆ ซักเดือนนึงก่อนดีมั้ย
ปลายเดือนพฤศจิกาค่อยเริ่มทำ
ไมค์ก็บอกแล้วแต่เราเลย

เราก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ ว่าจะยังไงดี
แต่ก็คงต้องรีบตัดสินใจเร็ว ๆ นี้แล้วแหละ
เพราะต้องบอกคุณหมอ
หากจะใส่ตัวอ่อนปลายเดือนตุลา
คุณหมอจะต้องให้ยาเพื่อเตรียมผนังมดลูก


.....


แอบหวังให้ ครั้งแรกของเรา ""ประสบความสำเร็จ นะ
แต่ก็เผื่อใจไว้เหมือนกัน เพราะกลัวว่าจะผิดหวัง

แน่นอนแหละว่า ถ้าครั้งแรกผิดหวัง
เราต้องร้องไห้แน่นอน

มีคิดคำปลอบใจตัวเองไว้แล้วนะว่า
หากเรามีบุญวาสนาต่อกันจริง เราคงได้เป็นแม่ลูกกัน
ได้เกิดมาเจอกัน และอยู่ด้วยกัน

แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้เจอกัน
เราก็ยอมรับ และรอวันที่เหมาะสม

ถามไมค์ว่า ถ้าไม่สำเร็จ ไมค์คิดว่ายังไง
ไมค์ตอบกลับมาว่า
เราก็ทำอีกสิ ต้องสำเร็จแน่ ๆ

ใจส้มก็สู้นะ ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เหมือนกัน 😊

อ่านเรื่อง ภาระกิจปั้นเบบี๋ ของเราได้ที่ไดอารี่หมวด จดหมายถึงดวงดาว ^^


.....

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เบบี๋ก๊อตจิ



16-08-61


หายไปนาน กับการเขียนไดอารี่ ไม่ได้อัพเดทชีวิตประจำวันเลย

เพราะ ตั้งแต่ไปช่วยไมค์ทำงานที่ร้าน เราก็ไม่ค่อยได้นั่งหน้าคอมซักเท่าไหร่

การเขียนไดอารี่ในมือถือ ก็สุดแสนจะลำบาก

ก็เลยเว้นวรรคไปเป็นช่วง ๆ จะมีมาเขียนเป็นบางเรื่อง

เช่นช่วงนี้ก็มีอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องจัดงานแต่งงาน กับเรื่องลูก




ความวุ่นวายในช่วงนี้ มีอยู่เรื่องเดียวคือ เรื่อง รถ

เดี๋ยวไปนู่น เดี๋ยวไปนี่ วนเวียนเกี่ยวกับเรื่องรถตลอด

จนสรุปสุดท้าย ได้น้องก๊อตจิมาเชยชมซักที




ส่วนป้ายทะเบียน สำหรับน้องก๊อตจิ ไมค์เลือกให้ทะเบียนนี้




ตอนแรกสุด ไปจองน้องหนูแดงเมื่อเดือนเมษายน

เราก็ดีใจ คิดว่า หนูแดงจะได้มาเกิดแล้ว




เราชอบหนูแดงมากเลยนะ

นั่งได้ 4 คนแบบสบาย ๆ เหมาะมาก สำหรับครอบครัวของเราในอนาคต

ถ้ามีลูก เราก็จะใช้หนูแดงนี่แหละ ขับพาลูกไปส่ง-ไปรับที่โรงเรียน





เลือกป้ายทะเบียนไว้เสร็จสรรพ 5กก 1000

แต่ด้วยว่า รถยังไม่มี เซลล์แจ้งว่า ต้องรอรถอีกหลายเดือน

เราก็รอ รอไปรอมา ... อยู่ดีดี น้องก๊อตจิก็มาเกิดเฉยเลย

สรุป น้องหนูแดง ต้องรอไปก่อน เดี๋ยวพอได้จังหวะ หนูค่อยมาเกิดใหม่นะลูก ..

พอเรามีลูก แล้วลูกไปโรงเรียนได้นั่นแหละ ถึงจะได้มองหาหนูแดงกันอีกรอบ

เพราะ น้องก๊อตจิ เราไม่สามารถขับไปส่งลูกที่โรงเรียนได้จริง ๆ แค่นั่ง ก็เหนื่อยแล้ว (=.=  )



.....

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561

สุขสันต์ "วันแห่งความรัก"




06-04-18




วันครบรอบในปีนี้

ไม่มี ของขวัญ

ไม่มี มื้อขนมน่ารัก ๆ

ไม่มีอะไรพิเศษเลย

เพราะ เราสองคนกับไมค์ มัวแต่วุ่นวายกับเรื่องจัดงานแต่งงาน




ความจริง ในวันครบรอบปีนี้

เราตั้งใจไว้ว่า จะไปหาขนมอร่อย ๆ น่ารัก ๆ กินกับไมค์

แต่ก็นัด Wedding Planner คุยกันช่วงเย็น

ช่วงกลางวัน ก็วุ่นวายกับการไปมอเตอร์โชว์

ไปสู้กับเซลล์ BMW เสียเวลาไป 4-5 ชม.ฟรี ๆ เลย

เพราะ การคุยตกลงกันที่ไม่ชัดเจนในตอนแรก

ทำให้ต้องอารมณ์เสียและหงุดหงิด

พอกลับจากมอเตอร์โชว์ ก็มาทำงานต่อ ซึ่งยุ่งสุด ๆ

จึงทำให้ ลืมไปเลย ว่าวันนี้ เป็นวันครบรอบปีที่ 12 ของเรา 2 คน

จะมีนึกได้แค่ตอนตื่นนอนเท่านั้นว่า

เออ.. วันนี้ครบรอบ 12 ปีแล้วนะ :)




รัก ไมค์ เหมือนเดิม

ปีนี้ มากกว่าปีที่แล้ว

วันนี้ มากกว่าเมื่อวาน

นาทีนี้ มากกว่านาทีที่แล้ว

วินาทีนี้ มากกว่าวินาทีที่แล้ว




ประโยคเหล่านี้ เราพูดกับไมค์ทุกปี

และในปีนี้ เราก็ยังคงรู้สึกแบบนี้เช่นเดิม

จุ๊บ...จุ๊บ.....




.....




ช่วงนี้ ไม่ค่อยได้อัพเดทชีวิตประจำวันลงในไดอารี่หน้านี้เลย

ส่วนใหญ่ จะไปบ่นงุ๊งงิ๊ง ๆ ในไดอารี่หน้า Before Our Wedding Day ซะมากกว่า

เพราะในตอนนี้ วัน ๆ มีแค่ 2 เรื่อง คือ ทำงาน กับ คิดเรื่องจัดงานแต่งงาน

เครียดน้า... เค้านอนตี 3 ตี 4 ทุกวันเลย เพราะนอนไม่ค่อยหลับ

คิดมาก คิดนู่นคิดนี่ตลอด... กังวลไปหมดทุกเรื่องเลย




.....

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

วัน ๆ คิดแต่เรื่องการจัดงานแต่งงาน :D



31-03-18


ช่วงนี้ ชีวิตไม่มีอะไรมากมาย

วัน ๆ คิดแค่ ... เรื่องการจัดงานแต่งงาน

หาโรงแรม , หาช่างแต่งหน้า , หาชุด บลาบลาบลา




คิดมากขนาดที่ว่า เก็บเอาไปฝันเลยแหละ :D








เราเริ่มต้นเตรียมงานแต่งงาน ช้า .. เกินไป

คือ ก่อนหน้านี้ คิดมาตลอดว่า ยังไม่ใกล้เลย ยังไม่ใกล้เลย

ตั้งปลายปีนู่นนนน... นี่เพิ่งต้นปีเองนะ




แต่




พอเริ่มต้นหาโรงแรม ได้คุย ได้นู่นนี่นั่น หลาย ๆ อย่าง

ทำให้รู้ว่า เออ .. เราเริ่มต้นช้าไปจริง ๆ ด้วย :D




คราวนี้หล่ะ เริ่มเครียดล่ะ

ไอ้นู่นก็ยังไม่ได้เตรียม ไอ้นี่ก็ยังไม่ได้หา

ออกอากาศรนนิด ๆ จนแบบ อะไรก็ได้ ๆ ให้มันได้ซักที :D








แต่ตอนนี้ ก็ได้แต่คิดว่า ทุกอย่าง จะออกมาเพอร์เฟค

เป็นไปตามที่เราต้องการและอยากได้

ถึงแม้ว่า มานั่งลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำ ต้องเตรียมแล้ว

มันยาวเป็นหางว่าว และดูเหมือนจะเตรียมไม่ทันก็ตาม :D




.....




สำหรับตอนนี้

เราก็จะขุนตัวเองให้อ้วน อยากให้น้ำหนักมากกว่านี้อีกซัก 5 กิโล

ลองดู ว่าจะทำสำเร็จมั้ย ^^




.....




วันพรุ่งนี้ มีนัดช่างภาพไว้

ช่างภาพคนนี้ เพื่อนแนะนำให้ เราดูผลงานของเค้าแล้ว ค่อนข้างชอบนะ

ก็เลยทักเค้าไป ครั้งแรกที่ได้คุยกับเค้า รู้สึกถูกชะตานะ

คุยกันเพลินเลยแหละ

เดี๋ยวไว้มาเล่าให้ฟังว่า เป็นยังไง ^^

เพราะ ถ้าวันพรุ่งนี้เจอกันแล้วโอเค เราก็จะตกลงจ้างเค้าเลย ไม่หาคนอื่นแล้ว




.....




จิ้มอ่าน ไดอารี่ว่าที่เจ้าสาว อัพเดทล่าสุดได้ตรงนี้

จิ้ม ๆ ๆ --> Bride to Be <--




.....




Happy Saturday ka ... :)




.....

วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ไมค์ถามว่า สรุปจะแต่งงานมั้ย



16.2.18


เมื่อคืน ตอนนั่งรถกลับบ้าน  อยู่ดีดี ไมค์ก็ถามขึ้นมาว่า ...

สรุป ยังจะแต่งงานอยู่มั้ย ???

อะไร .. ทำไม อยู่ดีดี มาถามชั้นแบบนี้

แกคิดจะเบี้ยวชั้นหรอ ... (นี่คิดดัง ๆ ในใจนะ ไม่ได้พูดออกไป)

และถามกลับไมค์ไปว่า ทำไมหรอ ??

คำตอบคือ .. ก็ส้มไม่เห็นเริ่มทำอะไรซักอย่าง ......

เออ .. นั่นสิ อิอิอิ

นี่ ผ่านมาครึ่งเดือนกุมภาแล้วนะ ทุกอย่าง ยังคงเหมือนเดิม

ไม่มีอะไรคืบหน้า




.....




เมื่อเรามีแพลนว่าจะจัดงานแต่งงาน สิ่งแรก-แรก ที่เราอยากได้ก็คือ

เครื่องปริ๊นซ์รูป ... เอ๊ะ นังป้านี่ อยากได้เครื่องปริ๊นซ์รูปไปทำไม

แกกำลังจะจัดงานแต่งงานนะ ไม่ได้กำลังจะทำนิทรรศการภาพถ่าย :D




สาเหตุที่ทำให้เราอยากได้เครื่องปริ๊นซ์ ก็เพราะ ..

เราเป็นคนเยอะไง เวลาจะทำอะไร ชอบทำให้มันเยอะกว่าคนอื่นไว้ก่อน




เครื่องปริ๊นซ์รูปเนี่ยะ เราจะเอามาปริ๊นซ์นู่นปริ๊นซ์นี่ ที่เราถูกใจ

เพื่อเก็บไว้เป็นไอเดียสำหรับงานแต่งงานของเราไง

เช่น หากเราเจอรองเท้าที่ถูกใจ เราก็ save รูปเก็บไว้ แล้วปริ๊นซ์ออกมา

นำมาเก็บไว้ใน List รายการสิ่งที่เราชอบ

เพื่อไว้สำหรับเตรียมเลือกเมื่อถึงเวลา อะไรประมาณนี้ ^^"




ไมค์ก็เลยซื้อเครื่องปริ๊นซ์จิ๋วให้เรา เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ในปีนี้

ขอกระแดะตามรีวิวเจ้าเครื่องปริ๊นซ์นี่ที่ดูจาก YouTube นะ ว่า...

มัน เวรี่ ๆ Tiny มาก ๆ อิอิอิ :D

เบา เล็ก กระทัดรัด ยกไปไหนก็สะดวก ปริ๊นซ์ก็ง่าย ถูกใจเราเป็นที่สุด




เราจึงเริ่มปริ๊นซ์รูปไปบ้างแล้วนิดหน่อย

เพื่อเตรียมมาเก็บไว้ในออแกไนซ์แพลนเนอร์ของเรา

ความชอบของเรา จะได้ไม่กระจัดกระจาย หรือตกหล่นหายไป




แต่ .. จะว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ก็คงจะไม่ถูก

มีแอบคืบหน้าไปจิ๊ดนุงแล้ว 1 เรื่อง คือ

เราหา  Wedding Planner ที่ถูกใจได้แล้ว

มีโทรไปคุยกับเค้ามาแล้ว ได้รายละเอียดมาคร่าว ๆ

แล้วก็คงตัดสินใจเลือก Wedding Planner เจ้านี้แหละ ไม่มองหาเจ้าอื่นแล้ว

เพราะ ความรู้สึกล้วน ๆ


เราเจอ Wedding Planner เจ้านี้ จากอินเตอร์เนต

ไม่ได้ตั้งใจจะหาหรืออะไรนะ อยู่ดีดี ก็เจอเค้าโดยบังเอิญ

เลยลองเข้าไปอ่านนู่นอ่านนี่ในเพจของเค้า รวมถึงคอมเม้นท์ต่าง ๆ

รู้สึกถูกชะตา กับพี่เค้ามาก ก็เลยตัดสินใจส่ง Line ทักไป

และเช้าวันรุ่งขึ้นก็โทรคุยกัน แค่นั้นเอง นี่คือการตัดสินใจของเราที่จะเลือกเค้า

ไม่มีเรื่องอื่นเลย นอกจาก ความรู้สึกชอบเป็นการส่วนตัว




.....




เบื้องต้น ก่อนที่จะเริ่มต้นทำอะไรทั้งสิ้น

สิ่งที่ควรกำหนดแล้วก็คือ...

งบประมาณในการจัดงาน และ จำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน



พี่เค้าถามเรามาว่า ของเราเป็นยังไง

คำตอบคือ ยังไม่ได้คิด และนี่ คือ สิ่งที่เราต้องไปหาคำตอบ

หากได้คำตอบแล้ว ค่อยโทรกลับไปคุยกับเค้าอีกครั้ง

แล้วจึงจะเริ่มต้นทำอย่างอื่นต่อไปได้



ซึ่ง ... หลังจากที่คุยกับพี่เค้า ก็ผ่านมาเกือบจะ 2 สัปดาห์ละ

ทุกอย่าง ยังคง เป็นคำว่า "ไม่รู้" เหมือนเดิม อิอิ

ก็ยังไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่า จะเริ่มรู้คำตอบเมื่อไหร่ ??

โปรดติดตามตอนต่อไป ว่า ความขี้เกียจ จะหายไปตอนไหน




.....




อ้อ ๆ ๆ

มีวัดขนาดของแหวนไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

นิ้วเล็กจิ๋วของเรา ใส่แหวน Size 45

ความจริง แหวนที่ไมค์ซื้อให้เมื่อปีที่แล้ว Size 47 นะ

แต่ครั้งนี้ เลือก 45 เพราะ จะได้พอดีกับนิ้วมากหน่อย

ไม่หมุนไปหมุนมาตอนใส่ ^^




.....

วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561

Happy 1st Wedding Anniversary



27-01-18 ถึง 28-01-18


วันครบรอบของเราจริง ๆ ที่เราไปจดทะเบียนสมรสกับไมค์

คือ วันที่ 30 มกราคม แต่มันตรงกับวันอังคาร

เราก็เลยบอกไมค์ว่า งั้นเราฉลองกันก่อนก็แล้วกันเนอะ




เราสองคนมีเวลา 2 วัน 1 คืน กับการไปเที่ยว

เลยเลือกเที่ยวในกรุงเทพฯ ก็พอ สะดวก และ ง่ายสุด

มันก็ออกจะตลกหน่อย ๆ นะ ที่ ...

บ้านของเราสองคน ก็อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ .. เราจองโรงแรมไว้พักด้วย 1 คืน

ประหนึ่งว่า ไปเที่ยวต่างจังหวัด (ห้าห้าห้า)

มันก็ได้ฟีลประหนึ่งว่าไปต่างจังหวัดจริง ๆ อยู่นะ




โปรแกรมของเรา ไม่มีอะไรโลดโผนหรือโรแมนติก

ไปแค่ โอเชียนเวิร์ล ดูเพนกวิ้น และ เช้าวันอาทิตย์ ไปถวายสังฆทานด้วยกัน

นี่คือที่เราคิดไว้ ...


เปิดไดอารี่ด้วยรูปคู่ ฝีมือไมค์ หน้าเบลอหลังชัด (=.=  )"




เราไปกันแค่ 2 คน ก็เลยจะมีรูปคู่ไม่มาก เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวยให้ตั้งกล้องถ่ายได้




ด้วยแพลนที่ว่า เราจะต้องดูโชว์ให้ครบทุกโชว์

และ เพนกวิ้น คือ สิ่งที่เราคาดหวังว่า จะมาดูให้ได้

ตั้งแต่โอเชี่ยนเวิร์ลมีเพนกวิ้นใหม่ ๆ เราก็บอกไมค์เสมอว่า อยากมาดู

แต่ก็ยังไม่มีโอกาศซักที จนวันนี้แหละ คือโอกาศที่จะได้มาดูเพนกวิ้น ^^





เคยมากับไมค์เมื่อตอนจีบกันใหม่ ๆ สมัยเรียนมหาลัย

ผ่านไป 10 ปี ทุกอย่างก็ยังคงเดิม เพียงแต่ มีเพนกวิ้นเพิ่มเติมเข้ามา ^^




โอ้โห... ปลากระเบน ตัวใหญ่มาก ๆ ๆ ๆ ๆ




ปะการัง สีก็สวยมาก ๆ อีกเช่นกัน




ม้าน้ำตัวจิ๋วหลิว






จุ้ง




ปู






ปลาฉิงโต








ถ่ายรูปมาได้ไม่มาก เพราะมัวแต่ตื่นตาตื่นใจ




เราว่า ถ้าเราไปคนเดียว ด้วยความคิดที่ว่า จะไปถ่ายรูปเล่นในโอเชี่ยนเวิร์ล

เราคงจมอยู๋ในนั้นได้เป็นวัน ๆ เลยแหละ

เพราะ มีอะไรเยอะแยะมาก ๆ ให้ถ่ายรูป






















ไหนดูซิ เรากับเพนกวิ้น ใครสูงกว่ากัน ^^




บรรดาเพนกวิ้นน้อย กำลังรออาหารจากเจ้าหน้าที่




ก่อนออกจากโอเชี่ยนเวิร์ล เราก็พบกับ กองทัพกวิ้น ๆ

อื้อหือ น่ารักยั๊วะเยี๊ยะเต็มไปหมด




แต่เราไม่ได้ซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกหรอกนะ

เพราะตั้งใจไว้ว่า ถ้ามาครั้งหน้า ค่อยให้จิ๋วจิ๋วเป็นคนเลือกตุ๊กตาเอง




ไมค์กับเพนกวิ้นตัวเล็กน่ารัก




นี่คือ การมาโอเชี่ยนเวิร์ลกันเพียงแค่ 2 คน เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเรากับไมค์แล้ว

เพราะ การมาครั้งหน้า และครั้งต่อ ๆ ไป

จะเป็นการพาลูก ๆ มาเที่ยว (แค่คิด ก็ตื่นเต้นแล้ววววววววว...)




.....




ออกจากพารากอน ก็มุ่งหน้าไปยังที่พักของเรา

เราจองห้องขนาด L ไว้

ราคาต่อคืน คือ 3,900 บาท ไม่มีอาหารใด ๆ ทั้งสิ้น

มีเพียงที่ซุกหัวนอนเท่านั้น

ไปดูหน้าตาของห้องพักกัน



เริ่มจาก เปิดประตูเข้าห้องมา ก็จะเจอกับบ่อน้ำเล็ก ๆ ให้เราลงไปแช่เล่นได้




ส่วนของเตียงนอน




อีกมุมนึง ถ้ามองจากเตียงนอน




ห้องที่เราเลือก จะแบ่งเป็น ห้องนอน และ ห้องนั่งเล่น

นี่คือทางเดินระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น




ห้องนั่งเล่น






เมื่อสำรวจทุกซอกทุกมุมเรียบร้อยแล้ว ป้าก็ขอจุ่มเท้าลงน้ำซะหน่อย




แล้วก็เปลี่ยนชุด ลงไปเล่นน้ำกับไมค์อีกแป๊บ










ความจริง เราถ่ายรูปไว้เยอะมาก ๆ ๆ ๆ เลยนะ

แต่ไม่สามารถเอารูปมาแปะไว้ในไดอารี่ได้ เพราะมันค่อนข้างโป๊ แหะ ๆ ^^"

รูปที่พอจะแปะให้คนอื่นเห็นได้ตอนเล่นน้ำกับไมค์ ก็มีแค่นี้แหละ






ก่อนนอน เราสองคนก็หม่ำ ๆ เค้กกับผลไม้อีกนิดหน่อย

เป็นการฉลองวันครบรอบแบบเรียบง่าย

ไม่มีอะไรโรแมนติกเว่อร์แบบที่อยากให้เป็น :D






เค้กก้อนเล็ก ๆ จากร้านโปรด ที่เราสองคนชอบกิน




สตรอเบอรี่สีแดงสดใส




เชอรี่ ที่ราคาแสนจะถูก กล่องนี้แค่ 59 บาทเอง

หวานอร่อยทุกลูกอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะราคาแค่นี้




หม่ำละน๊า ...




กินอิ่ม ก็เตรียมตัวนอน






มีสนทนากันนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปเล่นมือถือ

ถกปัญหาว่า อยากได้หัวเตียงแบบโรงแรมที่มาพัก

แต่ ไมค์บอกว่า ไม่ได้ เพราะหัวเตียงของเราเป็นกระจกใสแล้ว

ดูหน้าป้า ... เมื่อพบกับความผิดหวัง




คืนนี้ ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีเซอร์ไพรซ์ที่แอบหวังว่าจะได้จากไมค์ :D

ไมค์นอนเล่นเกมจนหลับไป

ส่วนเรา นอนตัดต่อคลิปที่เพิ่งถ่ายมาจากโอเชี่ยนเวิร์ลจนหลับไปเช่นกัน





เช้าวันรุ่งขึ้น




ต้องบังคับตัวเองให้ตื่น เพราะ แพลนที่คิดไว้ เป็นอันล่ม

เนื่องจาก ไมค์ต้องไปตรวจงานที่บ้านที่กำลังสร้าง

มีปัญหามากมายก่ายกองรอไมค์ให้ไปเคลียร์

เราก็ โอเคนะ ไม่ซีเรียสอะไร สังฆทานค่อยไปถวายกันสัปดาห์หน้าก็ได้








ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ถ่ายรูปน้องหมีนั่งกอดกันอีกซัก 1 รูป




เราไปนั่งรอไมค์เคลียร์งานที่ก่อสร้างจนเกือบ ๆ 2 ทุ่ม

ก่อนกลับบ้าน ไมค์เลยพาไปหม่ำ ๆ บิงซูสตรอเบอรี่เป็นรางวัลปลอบใจ

ที่วันนี้ตลอดทั้งบ่าย ต้องมานั่งแหง่วรอไมค์






เราพกสตรอเบอรี่มากินเองด้วย

เพราะ ที่เค้าให้มา มันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรากับไมค์




ตักกินพร้อมกับบราวนี่ อร่อยสุด ๆ




หมดวันอย่างอารมณ์ดี :) และมีความสุข




.....




ขอบคุณไมค์ สำหรับช่วงเวลาดีดี ที่มีให้กัน

ไมค์ตามใจเราตลอด จนเราคิดว่า ทำไมโชคดีจังที่ได้เจอกัน

ถึงแม้ จะมีช่วงเวลาที่ไมค์งี่เง่า แต่เราก็จะลืม ๆ มันไป

เพื่อที่ว่า เราสองคน จะได้เดินจับมือกันไปอย่างมีความสุขจนผมเปลี่ยนสีเลย :)




.....




Happy 1st Wedding Anniversary ka .. :)




.....