วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

เมืองจิ๋วจิ๋ว Stanley MiniVenture



19-03-17


ตั้งแต่มีคนรีวิว เจ้าเมืองจิ๋วในพันทิป
มีเพื่อนหลายคนส่งข้อความมาหาเรา
บอกให้เรา ไปสิ ๆ ๆ ๆ


เราอ่านรีวิวแล้ว อื้อหือ.... ไปสิ ๆ ๆ ๆ อิอิอิ


ผ่านมาเดือนกว่า ๆ หลังจากอ่านรีวิว
วันนี้ เพิ่งมีโอกาศไปเยี่ยมเยียน


Stanley MiniVenture
อยู่ชั้น 5 (รึเปล่า ไม่แน่ใจ) ที่ Gateway เอกมัย


ไป ๆ ๆ เข้าไปดูกัน


พอเข้ามาข้างใน อื้อหือ..... สวรรค์ของเราเลยอ่ะ


ทุกอย่าง กระจิ๊ดริ๊ดไปหมด ชอบมากกกก...
เห็นแล้วพูดกับไมค์ว่า เราอยู่ได้เป็นวันเลยนะเนี่ย
ถ่ายรูปเพลินมากกกกกกก....























เราแอบเห็นที่โบสถ์กำลังจัดงานแต่งงานด้วย ^^
น่ารักมาก ๆ ...



















มีสวนสนุกด้วย








เหมืองแร่








ฟาร์ม








มีหมูอู๊ด ๆ กำลังให้นมลูกด้วย ^^










เมืองที่เราชอบที่สุดคือ เมืองที่หิมะตก
เราว่า มันน่ารักมาก ๆ เลยอ่า ^^



























มีเพนกวิ้นที่ขั้วโลกด้วย




ถ่ายรูปเพลินมาก ๆ
หันไปเห็นไมค์เริ่มง่วง เราก็เลย พอแล้วดีกว่า
แต่พูดจริง ๆ นะ ยังอยากถ่ายรูปอีกเยอะเลย แหะ ๆ ^^"


รวม ๆ แล้ว ประทับใจสำหรับเจ้าเมืองจิ๋วมาก ๆ
อยากไปถ่ายรูปอีก :)


สำหรับค่าเข้าชม
คนละ 450 บาท




เป็นอีก 1  สถานที่ ที่พอเข้าไปในโลกของเค้าแล้ว
ทำให้ลืมโลกภายนอกได้เลย ^^


.....

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

วันอาทิตย์ที่มีแต่รอยยิ้ม ^^



05-03-17


วันอาทิตย์ กับ ไมค์
เย่ ๆ ๆ ๆ ... ไม่ได้รู้สึกชอบวันอาทิตย์มานานเป็นเดือนแล้ว


.....


วันนี้ต้องไปหาหมอ
เราไอตั้งแต่เดือนตุลาปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ ยังไม่หายไอซักที
x-ray ปอดแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
ตอนแรกหาหมอที่หัวเฉียว กินยาก็ไม่หาย
เลยย้ายหมอ ไปหาที่โรงพยาบาลหูคอจมูกแทน

อาการก็ดีขึ้นนะ ตอนนี้ก็เกือบจะหาย 100% แล้วแหละ

แต่หมอจะให้ยามากินที่บ้านแค่ 1 สัปดาห์
ถ้ายาหมดแล้วยังไม่หาย ก็ไปหาหมออีก
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว สำหรับหมอคนนี้
คาดว่า สัปดาห์นี้ น่าจะหายแล้วนะ ^^

รวม ๆ แล้ว
เราเสียเงินค่ารักษาอาหารไอไปเกือบ ๆ หมื่นแล้วเหมือนกันนะเนี่ย


.....


หาหมอเสร็จ ก็ไปเยี่ยมอาจารย์รุ่งที่บ้าน
อาจารย์รุ่งคือคนที่เขียนแบบบ้านให้เรา
เค้าเส้นเลือดในสมองแตก

ออกจากบ้านอาจารย์รุ่งตอน 5 โมงเย็นนิด ๆ
ไมค์ขับรถพาไปหม่ำ ๆ ขนมร้านใหม่ ที่ยังไม่เคยไป

ระหว่างทาง เราเลยถ่ายรูปเล่นกับไมค์นิดหน่อย ^^




2-3 วันมานี้ จิตใจและความรู้สึกของเรา
เริ่มกลับสู่สภาวะปกติแล้ว

เริ่มอยากถ่ายรูปเล่น อยากไปนู่นไปนี่
และฟังเพลงภาษาไทยได้แล้ว
ดูหนัง ดูละคร ก็เริ่มมีความสนุก

มีรอยยิ้มบนใบหน้า และเป็นรอยยิ้มที่มาจากความรู้สึก
ไม่ได้มาจากการเสแสร้งเหมือนเมื่อเดือนที่ผ่านมา :)




เราสังเกตุรูปถ่ายของตัวเอง ไม่ใช่แค่เราสิ ไมค์ก็ยังสังเกตุเห็น
คือ ในช่วงที่เราไม่มีความสุข ต่อให้เราทำหน้าตาสดชื่น
ยิ้มแย้มแจ่มใสยังไง แววตาและสีหน้า ก็ยังคงมีความทุกข์ให้เห็นอยู่ดี
แปลกดีเนอะคนเรา ต่อให้ปากไม่พูด แต่แววตา ปิดไม่ได้จริง ๆ






ร้านขนมที่ไมค์พาไปชิมวันนี้ อยู่ซอยฉิมพลี
ชื่อร้าน Little Hideout


ร้านน่ารักมากกกกก......
แต่ว่า เราไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศภายในร้านมาเลย แหะ ๆ
อย่างที่บอก อารมณ์และจิตใจของเรา เพิ่งกลับสู่สภาวะปกติ
มันก็เลยยังกรึ่ม ๆ ยังไม่ 100% เท่าไหร่
คงอีกไม่นาน :)
เลยให้ไมค์ถ่ายรูปให้นิดหน่อย


เราเลือกนั่งโต๊ะด้านนอก เพราะ บรรยากาศดี




วันนี้ เราสั่งขนมมาชิม 2 เมนู

เมนูแรกก็คือ Panda Cotta




หมีแพนด้า ราดซอสสตรอเบอรี่ รายล้อมไปด้วยกีวี่และสตรอเบอรี่




และมีท๊อปปิ้งสตรอเบอรี่ให้มาอีกต่างหากด้วย
เราสองคนกับไมค์ก็เลยไม่พลาด ต้องราดด... ให้เละ อิอิ






แผล่บ ๆ ๆ




รสชาดก็ใช้ได้นะ ไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็ไม่ได้ขี้เหล่ รวม ๆ ถือว่า โอเค ^^


ส่วนอีกเมนูก็คือ Classic Scone
ตั้งแต่เรากิน Scone ครั้งที่แล้ว เรากลายเป็นคนชอบ Scone ไปเลย
วันนี้มาเจอร้านนี้มี Scone ก็เลยไม่พลาด ที่จะต้องลองชิม




Scone 1 ชิ้น + วิปครีม และ ซอสสตรอเบอรี่




ตอนพนักงานยกมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมลอยมาเตะจมูกเราเลย
หอมมาก ๆ จนต้องเอามือไปบิขนม
แล้วยกขึ้นมาดม อื้อหือ... หอมมมม....




ร้านนี้น่ารักนะ มีวิธีทาน Scone ให้ด้วย






ไมค์ไม่รอช้า รีบปฏิบัติการ "เละ" ทันที


เริ่มจาก ใส่ซอสสตรอเบอรี่ก่อน ทาให้ทั่ว ๆ




ระหว่างที่ไมค์กำลังละเลง
หม่าม๊าก็โทรมาหาไมค์ ไมค์ก็เลย คุยไป ป้ายไป
เรานึกในใจ เอาหล่ะ เตรียมตัว เละ (ห้าห้าห้า)


ป้ายสตรอเบอรี่ชั้นแรกเสร็จ
ตามด้วยวิปครีม




และ ซอสสตรอเบอรี่อีกครั้ง






และ หน้าตาสุดท้าย หลังจากปฏิบัติการเสร็จ ก่อนหม่ำ ๆ


แท๊...แด........




เละ อย่างไม่มีที่ติ (ห้าห้าห้า....)




มาพูดถึงรสชาด...

ความหอมของ Scone สัมผัสได้แต่จมูกเท่านั้น
พอกินเข้าปากแล้ว กลับไม่ได้กลิ่นเลย
รสชาดไม่ประทับใจเรากับไมค์เท่าไหร่


แต่ก็ กินจนหมด




มาให้คะแนนกัน


Panda Cotta ราคา 195 บาท
รสชาดใช้ได้ แต่ไม่ได้อร่อยจนประทับใจ
เราให้ 8/10 คะแนน เพราะ หน้าตาน่ารัก (>.<  )"

Classic Scone ราคาไม่ชัวร์ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 140 บาท นะ (รึป่าว ??)
กลิ่นหอมเตะจมูก
แต่พอหม่ำเข้าปากแล้ว แอบผิดหวังนิด ๆ
ที่ไม่ได้หอมในปาก ให้ 6/10 คะแนนพอ





.....


หม่ำขนมเสร็จ ก็รีบขับรถกลับ
เพราะมีนัดกินมื้อเย็นกับป๊าม๊าต่อ


หมดวันอย่างอารมณ์ดี :)


หวังว่า จากนี้ไป เราจะมีแต่รอยยิ้มทุกวัน
เหมือนที่ผ่านมา...


.....


Happy Sunday ka... :)


.....

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

คน ๆ นี้ จะเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต



04-03-17


" เพื่อน "


เพื่อน หาได้ไม่ยาก
แต่ คนที่จะทำหน้าที่เพื่อน ได้ดี หายาก...


ชีวิตเรา มีเพื่อนเยอะมั้ย .. ไม่รู้เหมือนกันนะ
แต่ว่า ถ้าคนที่สนิทจริง ๆ มีแค่ไม่กี่คน


   รูปจาก Google



วันนี้ เราอยากพูดถึงเพื่อนคนนึงก่อน
ความจริง ยังมีสาวสวยอีกคน ที่เราสนิทด้วย
แต่ขอพูดถึงชายหนุ่มก่อนก็แล้วกันนะ อิอิ


เพื่อนคนที่เรากำลังจะพูดถึงนี้
สนิทกับเรา มาก...
มากชนิดที่ว่า เราคุยกันทุกเรื่อง
ทุกเรื่องจริง ๆ นะ แม้แต่เรื่องที่ส่วนตัวมาก ๆ


เค้าเป็นเพื่อนผู้ชาย
เรารู้จักกันตั้งแต่ ม.2 (ซึ่งในตอนนั้นก็น่าจะอายุ 14)
ปัจจุบัน อายุ 31 กันแล้ว โอ้โห... แค่ 17 ปีเอง ที่เราเป็นเพื่อนกัน


สมัยเรียนมัธยม ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนะ
แค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น ที่ไปไหนด้วยกันเป็นบางครั้ง
ช่วงพักกลางวันก็มีคุยกันบ้างเรื่องทั่ว ๆ ไป


แต่ใครจะรู้ว่า เพื่อน ที่เป็นแค่คนธรรมดา ๆ คนนึงในวัยเด็ก
จะเป็นคนที่สำคัญกับเรามากในวัยผู้ใหญ่


เราสามารถเล่าทุกเรื่องในชีวิตของเราให้ฟังได้
โดยไม่ต้องกังวลเลยว่า เค้าจะนำเรื่องราวของเราไปเล่าให้คนอื่นฟัง
ไม่เคยมีคำว่า ไม่ไว้ใจ ในความคิดของเราต่อเพื่อนคนนี้ "เลย"


เราไม่เคยโทรหาเค้าในเวลาที่เรามีความสุข
ฟังดูอาจจะ เออ.. อิป้านี่ เห็นเพื่อนเป็นแค่ที่ระบายทุกข์หรอ (ห้าห้าห้า)


ก็นั่นแหละ เราจะได้คุยกันก็ต่อเมื่อ มีเรื่องทุกข์ใจ
ความจริง ก็มีคิดถึงบ้างประปราย ทักทายกันบ้างนิดหน่อย
นิดหน่อยจริง ๆ บางครั้ง ก็หายกันไป ไม่ได้คุยกันครึ่งค่อนปีเลยก็มีนะ



และเดือนที่ผ่านมา
เพื่อนคนนี้ มีบทบาทต่อชีวิตของเรามาก ๆ
เค้าคอยรับฟังเรื่องราวของเราตลอด


ฟังเราแหกปากโวยวาย ร้องไห้ สติแตก
ชนิดที่ว่า ถ้าไม่ใช่เค้า
คงรำคาญเรา และไม่รับโทรศัพท์ของเราอีกแล้ว


คิดดูนะ ตี 4 ตี 5 เราก็โทรไปแหกปากสติแตก ร้องไห้ ๆ ๆ ๆ ๆ

เพื่อนเรามาบอกเราในวันที่เราเริ่มอาการปกติแล้วว่า
วันนั้นที่เราโทรไปแหกปาก

ลูกเมียตื่นมากระจองอแงกันหมดทั้งบ้านเลย
อิอิอิ


ที่เราเขียนไดอารี่หน้านี้ขึ้นมา ก็เพื่อจะบอกว่า

ในวันนี้ วันที่เรากลับมารู้สึกโอเคกับตัวเองแล้ว
สิ่งแรกที่อยากบอกเพื่อนคนนี้ก็คือ

ขอบคุณอ๊อฟมาก ๆ ที่เป็นเพื่อนส้มมาตลอด
ขอบคุณจริง ๆ นะ ที่คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ
และรับฟังส้มในทุก ๆ เรื่อง ทุก ๆ ปัญหา มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ไม่เคยบอกว่ารำคาญ หรือทำเสียงรำคาญใส่ส้มเลย


ขอบคุณไก่ด้วย ที่เข้าใจส้ม
ถ้าไม่ใช่ไก่ แต่เป็นคนอื่น
เค้าก็คงจะไม่โอเค
ที่นังผู้หญิงบ้าที่ไหนไม่รู้ โทรมาร้องไห้กับสามีตัวเองทุกวัน อิอิอิ


ดีใจที่เราได้รู้จักกันและเป็นเพื่อนกัน
ขอบคุณอ๊อฟจริง ๆ นะ


รักอ๊อฟกับไก่ ^^



.....

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

บางอย่างกำลังจะ "เกิด" ขึ้น ^^



03-03-17


บางอย่างกำลังจะ "เกิด" ขึ้น

เมื่อ 2 วันที่แล้ว เราได้รับรู้ว่า กำลังจะมีบางอย่าง "เกิด" ขึ้น ^^

แว๊บแรกคือ ไม่ตกใจเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ความ "ดีใจ"
จนแป้งยังแปลกใจว่า เฮ้ย ทำไมเราถึงไม่ตกใจเลย

เดือนนี้ เดือน มีนาคม ... อีกแค่ไม่ถึง 6 เดือนเองนะ...
เหมือนจะไม่นานเนอะ แต่ ถ้าระหว่างนี้ เกิดอะไรขึ้น เราก็คงจะรู้สึกแย่

หวังว่าทุกอย่าง จะผ่านไปได้ด้วยดี
และเป็นไปในสิ่งที่ควรจะเป็น
อย่ามีอะไรมาทำให้เกิดเรื่องไม่ดีเลย

เราจะถือว่า สิ่ง ๆ นี้ เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับตัวเราเองในปีนี้
และ เป็นสิ่งที่คิดว่า น่าจะดีที่สุด ที่จะได้รับในปีนี้เลยนะ


   รูปจาก Google


หลังจากที่ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สำหรับตัวเราเองนั้น...
มีแต่เรื่องต่าง ๆ มากมาย จนหัวใจแทบจะรับไม่ไหว

จนมีวูบนึงในความคิด ที่คิดว่า จะไม่อยู่อีกแล้ว

แต่ในตอนนี้ ก็เหมือนจะเริ่มรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว
และมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
ใช้กำลังใจมากพอสมควรเลยแหละ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา

สุดท้ายแล้ว หวังว่า ทั้งสองเรื่อง ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราในตอนนี้
คงจะผ่านไปได้ด้วยดี

หวังว่า...
ปลายปี เราคงจะมีแต่รอยยิ้มและความสุข ^^


.....


ถ้าเราหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้

ให้เราเลือกทำตาม "หน้าที่"
เพราะ "หน้าที่" จะนำพาให้เราทำแต่ สิ่งที่ดี และ สิ่งที่ถูกต้อง *เสมอ*


.....


Happy Friday ka... :)


.....

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ตัวเธอ เป็นของเรา :D



16-02-17


ตลกดี มีคนคิดแบบเราด้วยอ่ะ

เราเจอในเพจ เพจนึงของ Facebook




เราเพิ่งพูดกับไมค์เมื่อคืนนี้เอง




คิดว่า มีเราโรคจิต คิดแบบนี้คนเดียว (ห้าห้าห้า...)


.....

1st Valentine's Day



14-02-17


วาเลนไทน์แรกของเรา ^^


เมื่อคืน นอนงี่เง่า ๆ อยู่คนเดียว จนตีสองกว่า เกือบ ๆ จะตีสาม
แถมยังฝันร้ายอีกตลอดทั้งคืนเลย

เช้าวันนี้ ตื่นมา แบตหมดจ้า.. แบตหมดเกลี้ยงเยย... T^T
แบต ในความหมายของเราคือ..
ความรักและความเอาใจใส่จากไมค์
ถ้ามันลด หรือหมด ต้องรีบชาร์จจากไมค์
อิอิอิ ... เว่อร์อีกละ

เวลาเราแบตเริ่มลด
ถ้าทักไลน์ไมค์ไป แล้วตอบช้านี่ แบตจะลดเร็วมาก
ถ้าแบตเหลือน้อย ความงี่เง่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความงี่เง่าของเรา แปรผกผันกับแบตความรัก :D


ทำงานไปเรื่อย ๆ คุยนู่นคุยนี่กับไมค์ตลอด
จนบ่ายสามโมงกว่า
มีโทรศัพท์เบอร์แปลก ๆ โทรมา ถามว่า เราอยู่ตรงไหน จะมาส่งของ
ไอ้เราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ บอกทางเค้าเสร็จสรรพ
พอวางสาย มานั่งคิด อะไรอ่ะ ใครจะเอาอะไรมาส่ง
พักหลังมานี้ ไม่ได้ซื้อของอะไรในไอจีหรือในอินเตอร์เนตเลยนะ
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็รอดูว่า อะไรที่จะมาส่ง


พอคนส่งของมาถึงหน้าบ้าน
เราเดินออกไป เห็นเค้าหยิบกล่องของขวัญยาว ๆ ออกมา
เรางี้...อมยิ้มเลย .. ^^ นึกในใจว่า ไมค์ให้คนมาส่งแน่เยย....





ไม่เคยคิดเลยนะว่า ไมค์จะมีของขวัญวาเลนไทน์ให้เรา
เพราะ วาเลนไทน์ 9 ครั้งที่ผ่านมา ไม่เคยมีอะไรให้เราเลย แม้แต่ชิ้นเดียว

เมื่อเช้า เรายังแอบถามไมค์อยู่เลยว่า วันนี้ มีอะไรให้เราเหมือนคนอื่นรึป่าว
เพราะเปิด Facebook มา โอ้โห... เต็มฟีดเลย
ไมค์ถามกลับมาว่า ทำไมปีนี้อยากได้ของขวัญ ทุกปีไม่เห็นอยากได้อะไร

นั่นสิ ... ทำไมปีนี้ เราอยากได้ของขวัญวันวาเลนไทน์นะ ^^


ตอนจะเปิดกล่อง เราแอบลุ้นนะว่า อยากให้เป็นดอกกุหลาบ
เพราะ ดอกกุหลาบสำหรับเราในตอนนี้ มีความหมายมาก ๆ
ไม่ใช่แค่ ดอกกุหลาบ ที่ให้กันในวันวาเลนไทน์เหมือนแฟนคู่อื่น 


เปิดกล่องปุ๊บ .... ยิ้มไม่หุบเลยนะ
กล่องสีดำ ๆ เล็ก ๆ ที่ให้มาพร้อมกันนั้น ไม่มีความหมายสำหรับเราเลย
เพราะ เราดีใจมากกกกกก... ที่ได้ดอกกุหลาบ





ดอกกุหลาบดอกใหญ่ สีแดง ที่กลีบดอก มีเขียนชื่อ ไมค์ กับ ส้ม ด้วย





ดีใจมาก ๆ จนน้ำตาไหลเลยอ่ะ
คือ ไม่ได้เว่อร์นะ แต่ มันหุบยิ้มไม่ได้เลยจริง ๆ
ที่ไมค์ให้ดอกกุหลาบเรา










เราแอบเฟลไปนิดนึง และบอกไมค์ไปว่า
งั้นไมค์ก็ค้างดอกกุหลาบเราอีก 1 ดอกน้า...

ไมค์ตอบกลับมาว่า  ทั้งสองอย่างเลยไง
ทั้งวันวาเลนไทน์ และ อีก 1 ดอกที่เราขอ

เอ้อ... ค่อยหายใจได้ทั่วปอดหน่อย ^^"


พูดตามตรง ดอกกุหลาบสำหรับวันวาเลนไทน์ เราไม่อยากได้เท่าไหร่หรอกนะ
อยากได้ดอกกุหลาบที่ขอไมค์ไว้มากกว่า
เพราะ มันสำคัญต่อความรู้สึกของเรามาก

อ่านแล้วคงจะงงว่า เอ๊ะ อิป้านิ่ กุหลาบที่ให้วันวาเลนไทน์ 
กับ กุหลาบที่ขอและให้ในวันวาเลนไทน์มันต่างกันยังไง อิอิ :P


.....


ตอนเย็นเจอกัน ก็ไปหม่ำ ๆ มื้อเย็นกันตามปกติ
ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ^^


เราให้ของขวัญไมค์ 1 กล่อง และการ์ดอีก 1 ใบ
อ้อ ... มีเข็มกลัดด้วย :) เป็นเข็มกลัดรูปหัวใจ















หม่ำ ๆ อิ่มแล้ว ก็ไปบ้านไมค์ ไปตีแบดกัน
ตอนนี้ เรากำลังหัดตีแบดอยู่
อีกหน่อย จะได้ไปตีแบดกับไมค์ได้ ^^


.....


ก่อนนอน ไมค์ส่งรูปมาให้ดู
เป็นของขวัญที่เราให้ไมค์




เราให้ต้นหัวใจ ^^




ตั้งใจไว้ว่า จะไปวางไว้ตรงหัวเตียงนอนตอนบ้านสร้างเสร็จ ^^

ถามไมค์เมื่อคืน ไมค์ตอบถูกด้วยหล่ะ ว่าเราจะไปตั้งไว้ตรงไหน


.....


เช้าตื่นมา คิดว่า จะเป็น Bad Valentine's Day
เพราะแบตหมดตั้งแต่ตอนตื่นนอนเลย

ที่ไหนได้ กลายเป็น Happy Valentine's Day ซะงั้นอ่ะ ^^


.....


รักไมค์...
วันนี้ มากกว่า เมื่อวาน
นาทีนี้ มากกว่า นาทีที่แล้ว
วินาทีนี้ มากกว่า วินาทีที่แล้ว


.....


Happy Valentine's Day ka... :)


.....