วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รีโนเวท : ห้องนอน



05-11-16


รีโนเวทบ้านไปด้วย อยู่ไปด้วย เป็นอะไรที่....
เพลียมาก... เพลียทั้งกาย เพลียทั้งใจ

ห้องนอนเดิมของเรา มีเตียงบิ้วท์อิน และพื้นปูพรม
พอมีโอกาศทำบ้านใหม่ จึงขอรื้อพรมและเตียงนอนออก
ทาสีห้องใหม่ และ เปลี่ยนประตูห้องน้ำ กับ ประตูระเบียงใหม่ เนื่องจากของเดิมผุหมดแล้ว

หน้าตาห้องนอนก่อนทำ






เริ่มจาก การรื้อพื้นและพรม
ใช้เวลาประมาณ 2 วันในการรื้อ






คืนแรกของการย้ายที่นอน
เป็นอะไรที่รู้สึกแย่มาก ด้วยว่า ย้ายของจากห้องนี้ ไปอยู่อีกห้อง
แล้วตัวเราเองก็ไปนอนอีกห้อง ของเยอะมากกก...
นี่คือ สภาพสิ่งของ ที่เราขนจากห้องของเราไปไว้อีกห้อง




คือ ของเยอะมาก ๆ ๆ ๆ ๆ
จนต้องปูที่นอน นอนอยู่หน้าห้องน้ำ
ทำให้นอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมาจนตีสี่กว่า




สุดท้าย... ไปนอนเปิดแอร์ นอนห้องนอนตัวเองที่กำลังรื้อ





ไม่เคยคิดเลยนะ ว่าชีวิตนี้ จะมานอนในที่แบบนี้ คือ ฝุ่นเยอะมาก
แล้วตัวเองแพ้ฝุ่นด้วยนะ แต่ก็ยังอดทนนอน

มันหลับสบายอย่างบอกไม่ถูก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ ได้นอนในห้องนอนของตัวเอง
หรือว่าไม่อยากนอนหน้าห้องน้ำ


สภาพห้องคืนแรกที่รื้อพื้น






2 วันผ่านไป ไวเหมือนโกหก... รื้อพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว




เราไปนอนในห้องที่กำลังรื้อแค่คืนแรกคืนเดียว
หลังจากนั้น ก็ย้ายไปนอนในห้องคลินิคที่ชั้น 1 แทน
ชีวิตเหมือนไปเข้าค่ายเลย อิอิ


แล้วด้วยความที่เป็นโรคขี้อี๋ คือ อี๋ไปหมดทุกสิ่ง ที่ไม่ใช่ของของตัวเอง
ดังนั้น การย้ายที่นอน จึงเป็นเรื่องวุ่นวายมาก
ต้องปูเสื่อก่อนที่จะปูผ้ารองที่นอน ปูที่นอน เสร็จแล้วก็ปูผ้าห่มอีกชั้น
แล้วถึงจะนอนได้ ไม่งั้น ไม่สบายใจ นอนไม่หลับอีก
อ้อ ได้รับความอนุเคราะห์เสื่อจากไมค์  ขอยืมมาเข้าค่ายแป๊บนึง :P


และ นี่คือสภาพเตียงนอนของเรา




หลังจากรื้อพื้นไม้และพรมเรียบร้อยแล้ว
ก็ถึงเวลาซื้อกระเบื้อง กู๋ถามว่า จะเลือกกระเบื้องเองมั้ย
เราไม่มีเวลาไปเลือก ก็เลยบอกไปว่า ให้กู๋เลือกให้ แบบไหนก็ได้ ขอแค่เป็นสีขาว




ก็เลยได้กระเบื้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวล้วนมา




พอกระเบื้องมาส่งเรียบร้อย ก็เริ่มปูพื้นกันเลย
ห้องของเราขนาดประมาณ 36 ตร.ม. ใช้กระเบื้องทั้งหมด 25 กล่อง


ปูกระเบื้องอย่างจริงจัง คือ 2 วันแรก หลังจากกระเบื้องมาส่ง




รูปอาจจะดูฟุ้ง ๆ หน่อย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ถ้าเราใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปตอนกลางคืนทีไร รูปที่ได้จะฟุ้ง ๆ แบบนี้ทุกที






หลังจากนั้น ช่างก็มามั่ง ไม่มามั่ง
บางวันมา ก็ไม่ทำห้องเรา ไปทำห้องอื่น
ทำให้ห้องของเรา คาราคาซังไม่เสร็จซักที




ทุก ๆ เช้า เราต้องมาคอยลุ้นว่า วันนี้ ช่างจะมาทำบ้านมั้ย
เพราะเรานอนลำบากมากจริง ๆ เลยอยากให้ห้องเสร็จเร็ว ๆ

ไม่ใช่ว่าจู้จี้หรืออะไรหรอกนะ คือ ถ้าเรามีที่นอนดี ๆ เป็นเรื่องเป็นราว
จะทำซักเดือนสองเดือน ก็คงไม่เดือดร้อน


ผ่านไปเกือบ ๆ สองสัปดาห์ งานปูกระเบื้องจึงเรียบร้อย (หรอ ??)




พอช่างบอกว่า โอเคละ ปูกระเบื้องเสร็จแล้ว
เราก็มาดูผลงานกัน แม่เจ้า............




คือ ระหว่างที่เค้ากำลังปู เราก็มีไปดู ๆ บ้างนะ
แล้วก็บอกว่า ปูไม่เท่ากันนะ แผ่นนี้สูงกว่าแผ่นนั้น แผ่นนั้นสูงกว่าแผ่นนี้
ตรงจุดนี้ไม่เรียบ ตรงจุดนั้นไม่ดี

เค้าก็ฟังมั่ง ไม่ฟังมั่ง แล้วก็บอกว่า จะแก้ให้

วิธีการแก้ของเค้าก็คือ โปะยาแนวให้หนา ๆ
เพื่อปกปิดรอยต่อระหว่างกระเบื้อง ที่มันสูงไม่เท่ากัน เพราะปูไม่เท่ากัน

สุดท้าย เราไม่ยอม ก็เลยต้องรื้อกระเบื้องทิ้ง แล้วปูใหม่
แต่ก็ไม่ได้รื้อทุกแผ่นที่เราติไปหรอกนะ เพราะ ถ้าทำแบบนั้น คงต้องรื้อปูใหม่ทั้งห้อง
เราก็เลยเลือกแผ่นที่อาการโคม่าจริง ๆ ให้เค้ารื้อ
แล้วก็หยวน ๆ เพื่อให้งานมันจบ ๆ ไป เพราะนี่ก็รอมา 2 สัปดาห์แล้วไม่เสร็จซักที


งานพื้นเสร็จ ต่อไปก็คือ เก็บรายละเอียด ทาสีห้อง และ เปลี่ยนประตู




ซึ่ง ใช้เวลาอีกประมาณเกือบ ๆ 2 สัปดาห์
กว่าคุณช่างจะบรรเลงสีขาวลงบนผนังห้องของเรา และเปลี่ยนประตูระเบียงให้เรา
งานเปลี่ยนประตูก็ใช่ว่า วันเดียวจบนะคะ
นู่นนนนนนนน... 4 วัน จบ แก้แล้วแก้อีก ไม่พอดีซักที ติดประตูเสร็จ ปิดไม่ได้ บลา ๆ ๆ ...


รวมเวลาไปเข้าค่ายของเรา ก็ไม่กี่วันหรอก แค่ อีก 6 วัน ครบ 1 เดือน






ก่อนงานเสร็จสมบูรณ์ ส้มก็ไปดู ๆ ว่า ต้องเก็บรายละเอียดตรงไหนอีก
ตรงไหนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พยายามเก็บเอง ทำเอง เพราะ ไม่อยากไปบอกช่างแล้ว
มีไปทาสีเก็บรายละเอียดตามมุมของประตูบานพับเองนิดหน่อย




เพลียสุดชีวิต ........
ที่เพลียนี่ ไม่ใช่ว่า ทำงานเพลียนะ
คือ การไปนอนในที่ที่ไม่สบาย แน่นอนอยู่แล้วว่า มันทำให้เราไม่สบายตัว
และหลับไม่เต็มอิ่ม วันหยุด อยากตื่นสาย อย่าได้หวังในช่วงของการทำบ้าน
เพราะ ช่างมาตั้งแต่ 7 โมงกว่า มาถึงก็เริ่มขุด เริ่มเจาะ เริ่มเคาะ
อย่าหวังจะได้หลับต่อ เลยยิ่งทำให้เราเพลียหนักกว่าเดิม


กว่าจะได้ห้องนี้มา




เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ก็ถึงเวลา ย้ายกลับ ...
งานทิ้งจึงมาอีกรอบ รอบแรก ก่อนทำห้อง ตอนเก็บของลงลัง ก็ทิ้งไปเยอะแล้วนะ
พอย้ายกลับ ก็เลือกของอีกรอบ และ ทิ้งอีก ทิ้ง ๆ ๆ ทิ้งของไปเยอะมาก ๆ
เพราะ ในใจของเรา อยากได้ Minimalist Bedroom
ทุกสิ่งอย่างจะต้องดูน้อยชิ้น และ เป็นระเบียบ แลดูสะอาดตา

เสื้อผ้าบริจาคไปสิบกว่าลัง รองเท้าอีกเกือบ 30 คู่
คือ บางอย่างก็เสียแล้วใช้ไม่ได้ทิ้งไป บางอย่างยังใหม่อยู่ก็บริจาค

พอเก็บห้อง ถึงได้รู้ว่า เราซื้อของที่ไม่ใช้มาเก็บไว้เยอะมาก ๆ
ขนาดตอนนี้ ทิ้งไปเยอะแล้ว แต่ที่ตัดใจไม่ได้ ก็ยังเยอะเหมือนเดิม
ปวดใจ กับสิ่งที่ ... ไม่ใช้ แต่ ไม่ทิ้ง (=.=  )"


.....


เมื่อเลือกของได้แล้วว่า อันไหนเก็บไว้ใช้ต่อ อันไหนทิ้ง
ต่อไปก็มาแปลงโฉมให้มัน

เราเลือกที่จะทาสีเอง แทนที่จะทิ้งไปแล้วซื้อชิ้นใหม่ที่เป็นสีขาว
ก็สนุกดีนะ ได้ทำเอง ได้ลงมือเอง แอบภูมิใจเล็ก ๆ ^^


เริ่มจาก ชั้นเก็บของเล็ก ๆ






พอทาเสร็จแล้ว ก็ใส่หูจับกลับที่เดิม






^^ ภูมิใจมาก ๆ



กระจกเงา ก็ทาสีขอบกระจกใหม่ จากสีน้ำตาลอ่อน เป็นสีขาว




ตู้ข้างเตียง ก่อนหน้านี้ เป็นสีน้ำตาลเข้ม
เราก็หาอะไรที่เป็นลายดอกไม้มุ๊งมิ้งตามประสามาปูไว้
พอทำห้องใหม่ ก็เลยต้องแปลงร่างให้เค้าด้วย




เริ่มจาก แกะเปลือกออก (พูดเหมือนเป็นอะไรซักอย่าง อิอิ)




ลงมือทาสี




ทาสีอยู่ 3 วัน กว่าจะเสร็จ
เพราะ วันแรก ทาสีรองพื้น วันที่สองทาจริง และวันสุดท้าย เก็บรายละเอียด

รูปนี้ ยังไม่เสร็จ เพราะ ตัวลิ้นชัก เอาไปทาสี รอสีแห้งอยู่




เมื่อโต๊ะข้างเตียงทาสีเสร็จ ก็มาทาสีโคมไฟด้วย
ตอนแรกโคมไฟเป็นสีขาวม่วง
เราทาสีใหม่เป็นสีขาวดำแทน




ของจุ๊กจิ๊กอื่น ๆ ก็ทาสีเองบ้าง ซื้อใหม่บ้าง ปน ๆ กันไป

ส่วนเตียงนอน เป็นเตียงเดิม เพราะ สีขาวอยู่แล้ว
แค่เย็บผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ใหม่ และ ซื้อผ้าห่มผืนใหม่ที่เป็นสีขาว

เราไปซื้อผ้าสีขาวลายจุดสีดำจากสำเพ็งมา 4 เมตร (200 กว่าบาท)
แล้วก็มานั่งเย็บผ้าปูที่นอน กับ ปลอกหมอนเอง
และ ผ้าห่มผืนใหม่จาก Ikea จำราคาไม่ได้แล้ว
แค่นี้ ก็ได้ที่นอนขาวสะอาดตา น่านอนที่สุด ^^




ถึงวันนี้ จัดห้องมาแล้ว 3 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะจัดห้องเสร็จ
ค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ไว้พอใจเมื่อไหร่ จะถ่ายรูปโดยรวมมาอวดอีกที ^^




.....


Happy Saturday ka ... :)


.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น