วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คิดถึงถาดหลุมกินข้าวตอนประถม



12-06-16


สมัยเด็ก ๆ หลาย ๆ คน คงเคยกินข้าวในถาดหลุมที่โรงเรียน
พอมาคิดถึงช่วงเวลานั้น ก็ทำให้ อยากจะหาซื้อถาดหลุมมากินในตอนนี้ :D
เราว่า น่าจะสะดวกนะ มี 7 หลุม ใส่ต้มจืด ผัด ขนม และ พริกน้ำปลา
พอกินเสร็จ ก็ยกไปล้างทีเดียวเลย ง่าย สะดวก ^^" อิอิ

ที่เพลินวานพาณิชย์ เค้ามีเมนูอาหารที่เสิร์ฟมาในถาดหลุม
เราเลยต้องไปกินซักหน่อย (พูดเหมือนว่าเค้าฮิตมาก ทีไ่หนได้ ฮิตอยู่คนเดียว)


เมนูที่เราสั่งคือ ข้าวกับยำปลากระป๋อง




รสชาด ใช้ได้ แต่ราคา แพงไปนิด ถ้าจำไม่ผิด ถาดนี้ น่าจะ 90 บาท






ส่วนไมค์ กินข้าวหมูทอดกระเทียม




เราสั่งกันคนละ 1 อย่าง และ น้ำเขียวไม่ใส่โซดา 1 แก้ว
แต่ น้ำเขียวไม่มา , รับออเดอร์ไป แต่ ไม่ทำมาให้
พนักงานมัวแต่คุยกัน เราเลยไม่ตาม คิดว่า ไม่ทำให้ก็ไม่กิน
กินข้าวเสร็จ เดี๋ยวไปกินน้ำอย่างอื่นก็ได้ ไม่ง้อ
ตอนเก็บเงิน คิดเงินค่าน้ำเขียวมาด้วย พอเราทัก พูดกลับมาว่า อ้าว ไม่มีหรอ
เรานึกในใจ เออ.. ไม่มีอ่ะสิ แกมัวแต่คุยกัน... (แอบเป็นนางมารร้ายเล็ก ๆ ในใจ)


ก่อนออกจากร้าน ขอถ่ายรูปนิดนึง






บางที การกระทำบางอย่างของพนักงาน ก็เหมือนเป็นการไล่ลูกค้าทางอ้อมนะ
เรากินข้าวเสร็จแล้ว แต่อยากนั่งต่ออีกซักพัก
พนักงานเดินมา ถามว่า เก็บจานเลยมั้ย..
เราแอบสตั๊นไป 2 วิ .. คือ โดยทั่วไป หากโต๊ะไม่เต็ม หรือ สกปรก หรือเราจะทานของหวานต่อ
เค้าก็มักจะไม่ค่อยเก็บนะ รอจนกว่าเราจะลุกออกจากโต๊ะ จึงจะมาเก็บทำความสะอาด


นี่ เรามีแค่ ถาดข้าว กับ จาน แค่นั้น (แก้วน้ำก็ไม่มี)
แต่เค้ามาขอเก็บจานบนโต๊ะ
คือ ไม่รู้ว่า เจตนาของเค้าคืออะไร อาจจะแค่อยากเก็บเพื่อให้โต๊ะสะอาด
แต่ความรู้สึกของเราคือ เหมือนไล่เราทางอ้อม ประมาณว่า กินเสร็จแล้ว ก็รีบ ๆ ไปสิ
จะว่าเราไปกินตอนร้านใกล้ปิด ก็ไม่ใช่ เพราะตอนที่เราทานอิ่มกันแล้ว โต๊ะอื่นก็กำลังทานอยู่ด้วย

โดยปกติแล้ว เราไม่ค่อยคิดอะไรนะเวลาไปทานข้าวตามร้านอาหาร
ยกเว้นเรื่องอาหารมาช้า และโดนแซงคิว
ซึ่ง 2 กรณีนี้ เรามักจะโวยวายเสมอ ไม่เคยปล่อยผ่าน


หรือ หากไม่โวยวาย แต่อาหารมาช้ามาก จนคนอื่นที่ทานกับเรา ทานหมดแล้ว
เราจะบอกคนมาเสิร์ฟว่า เราไม่รับแล้ว ยกกลับไปด้วย
(ซึ่งส่วนใหญ่ คนมาเสิร์ฟ มักทำหน้า เอ๋อ ... อิอิอิ)


หิวนะ แต่ทำไมอ่ะ ชั้นหยิ่ง ในเมื่อ เธอลืมชั้น แล้วทำไม ชั้นจะต้องเสียเงินให้เธอด้วย
ไม่กินแล้ว ยกกลับไปซะ
นี่คือ คิดในใจนะ คิดในใจ ไม่ได้พูดออกไปให้คนมาเสิร์ฟได้ยิน
แต่คนที่ได้ยินเป็นเสียงออกมานอกใจ คือ ไมค์ (ห้าห้าห้า)


นอกเหนือจากเรื่องพวกนี้
เช่น เรายังทานไม่เสร็จ แต่ จะปิดร้านแล้ว เค้ากวาดพื้น ยกเก้าอี้ขึ้นโต๊ะ
หรืออะไรก็ตามที่เป็นการเตรียมปิดร้าน เราไม่เคยว่า
แต่ร้านนี้ ครั้งนี้ เราว่า ไม่ไหวอ่ะ รู้สึกแย่ ไมค์อาจเฉย ๆ ไม่คิดอะไร


แต่ สำหรับเรา เรื่องกิน มักเป็นเรื่องใหญ่เสมอ
ส่วนมารยาทพนักงาน เป็นเรื่องรอง
ดังนั้นเนี่ยะ เรื่องมารยาท จึงไม่ค่อยอยู่ในความรู้สึก ให้คอยจับผิด (อิอิ)
ในครั้งนี้ เราจึงคิดว่าไม่ไหวอ่ะร้านนี้


มาทานครั้งเดียวพอ ...


.....


แอบชะแว๊บถ่ายรูปตอนรีดนมวัวที่พารากอนด้วย
เป็นการจับนมวัวครั้งแรกในชีวิต (ห้าห้าห้า)




.....


Happy Sunday .. (ยกเว้นเรื่องร้านเพลินวาน ไม่ชอบเลย)


.....

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Hello MooMin @ MooMin Cafe



29-05-2016


2 วัน ก่อนหน้านี้ เห็นเพื่อนโพสรูปที่ถ่ายใน Moomin Cafe
ส้มตั้งใจไว้แน่วแน่เลยว่า วันอาทิตย์นี้หล่ะ ชั้นจะต้องไปลองให้ได้ ^^

และ วันนี้ก็มาถึง (พูดซะเว่อร์ เหมือนรอคอยมายาวนาน ที่ไหนได้ แค่ 2 วัน อิอิ)

เราไปถึงสยามเซ็นเตอร์กันประมาณ 5 โมงเย็น
ตรงดิ่งไปจองคิวก่อนเลย (ต้องรอประมาณ 15 คิว)
ระหว่างรอ ก็เลยไปซื้อกระเป๋า ^^"
(ทำไงได้ ไม่มีกระเป๋าจะใช้เลยอ่า ... --- หรา......... นี่คือเสียงของไมค์ ห้าห้าห้า)

พอซื้อกระเป๋าเสร็จ มานั่งรอคิวอีกประมาณ 10 นาที
ระหว่างรอ ก็แอบมองเข้าไปในร้าน
ตลกดีนะ คือ แต่ละโต๊ะ จะนั่งกินขนมกับ Moomin
พี่ ๆ พนักงานก็อุ้มตุ๊กตาไปมา ลากไปโต๊ะโน้น อุ้มมาโต๊ะนี้
ดูแล้วก็เพลินดี อิอิ

พอถึงคิวเรา ... โชคดีเลย ได้นั่งโต๊ะด้านหน้าร้าน
รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวขึ้นมาทันที
พี่พนักงานมาถามว่า ในร้านมีโต๊ะว่าง จะย้ายมั้ย ส้มรีบตอบเลยว่า ไม่ค่ะ ๆ :D

พอสั่งขนมเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดเลนส์กล้องกันเลย ...






นั่งมองนู่นมองนี่ไม่ถึง 10 นาที เมนูแรกของส้มก็มาเสิร์ฟ
Filly Jong's Latte (ฟิลลี่ จ๊องส์ ลาเต้)




ฟิลลี่ จ๊องส์ ลาเต้
เป็นนมเย็นสูตรพิเศษของคุณฟิลลี่
โดยนำน้ำแดงเฮลซ์บลูบอย มาทำเป็นน้ำแข็ง และเวลาจะดื่ม เราก็แค่เทนมลงไปในแก้ว
อื้อหือ.... นี่มันนมเย็นสีชมพูชัด ๆ อิอิ


เวลาที่มาหม่ำขนมร้านน่ารัก ๆ แบบนี้
ส้มชอบสั่งเมนูที่ต้องลงไม้ลงมือก่อนจะกิน อิอิ
มันรู้สึกว่า สนุกดี (ถ้าใครเคยอ่านไดอารี่ตอนที่ไปร้านคิตตี้ จะรู้เลยว่า ส้มชอบแค่ไหน :D)






ไหน ลองชิมซิ ..
ให้ทาย ว่า รสชาดเป็นยังไง ดูจากหน้าตาของเรา 2 คน อิอิ

ไมค์มาย






ดูหน้าศศิริน บ้าง




หม่ำละน๊า......




อื้อหือ..........
อะไรจะทำหน้าฟินเว่อร์ขนาดนี้ ห้าห้าห้า




สนุกกับฟิลลี่จ๊องไม่นาน




ความอร่อยอย่างที่สองก็เดินทางมาถึง...


แท๊แด.........




เมนูนี้ก็คือ.... Panookie Strawberry Sunday
(แพนนุ๊กกี้ สตรอเบอรี่ ซันเดย์)




เมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกะทะ
ด้านล่างเป็นคุ้กกี้นิ่ม (เห็นเค้าบอกว่าอบในกะทะ) ส่วนด้านบนมีไอติมรสวนิลา + สตรอเบอรี่สด
ราดด้วยซอสช๊อคโกแลตหวาน....ฉ่ำ...
มุมินบอกว่า อร่อยมาก ๆ .. ป้าส้มก็เลยไม่พลาด ต้องชิม ต้องชิม




เอาหล่ะ ... หามุมกล้องอยู่พักใหญ่ จนไอติมเริ่มย้อย เริ่มละลาย :P
เรามากินกันซักทีเถอะนะแก.... ถ้าช้ากว่านี้ มันจะละลายจนเละนะ




กินไป ถ่ายรูปไป สนุกมาก ^^
ตั้งกล้องไว้บนโต๊ะ รูปที่ถ่ายได้ จึงเป็นแบบที่เห็น ห้าห้าห้า




นอกจากจะเป็นรูปอ้าปากที่น่าเกลียดแล้ว นังเบ๊คกี้ยังแอบทรยศ
ไม่ยอมโฟกัสที่ป้า ไปโฟกัสที่ใบไม้สีเขียวด้านหลัง
เง้อ............ ชั้นให้แกถ่ายรูปช๊านนน... ไม่ใช่ให้ถ่ายรูปใบไม้ด้านหลัง


ทุกรูปที่มาจากความทรยศของนังเบ๊คกี้ จึงเห็นหน้าป้ากับไมค์มายไม่ชัด










ป้ากับไมค์มายเบลอ แต่ นังใบไม้สีเขียวด้านหลัง ชัด !!! (-_- )"






ตั้งกล้องถ่ายแล้ว ดูท่าจะไม่เวิร์ค ลองหยิบโทรศัพท์มาถ่ายบ้าง








กว่าจะอิ่ม หัวเราะจนเหนื่อย :D
โต๊ะข้าง ๆ คงรำคาญมิใช่น้อย อิอิ




พอกินอิ่ม ก็เรียกเค้าคิดเงิน
ค่าความสนุกวันนี้ 346.50 บาท




สำหรับส้ม ส้มถือว่า ไม่แพงนะ
เพราะ 2 เมนูที่ส้มกิน เรียกได้ว่า อร่อย เลยแหละ
ใครจะว่าแพง หรือ ไม่อร่อย อันนี้ก็แล้วแต่ลิ้น และความชอบของแต่ละคน
ส่วนส้ม ผ่านค่า.................
กลับมากินอีกแน่นอน เพราะเล็งไว้อีกหลายเมนู ^^"


พอจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ก็เลยให้พี่พนักงาน ช่วยอุ้มเจ้ามุมินมาให้หน่อย
ฮั่นแน่........ ตะกี้ตอนรอคิว แกยังแอบหัวเราะคนอื่นอยู่เลย
นี่อาราย.... จะถ่ายรูปคู่กับมุมินบ้างหรา.......... (ห้าห้าห้า)


เอาน่า ซะหน่อย ๆ ไหน ๆ ก็มาแล้ว




มองไกล ๆ ก็เฉย ๆ นะ
แต่พอมานั่งอยู่ด้วยกันแล้ว นางอ้วนอ่ะ :D ตัวหญ่ายมาก...






พุงงี้ ... โย้เชียววววววววววววววว ...






ก่อนออกจากร้าน ให้พี่พนักงานช่วยถ่ายรูปครอบครัวให้ 
ครอบครัว ??
แกออกลูกเป็นมุมินตั้งแต่เมื่อไหร่ป้า .... :D
ไมค์ถามว่า ใคร ... ? ... ใครเป็นครอบครัวแก (ห้าห้าห้า)




เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสุข :)


.....


Happy Sunday ka ... :)



วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อีก 9 วัน ครบ 1 ปี ที่ได้รู้จักเบ๊คกี้


02-05-2016

เป็นวันหยุดที่มีความสุข ^^


มีความสุขกับสิ่งที่ทำทั้งวันเลย
ตื่นเช้ามา กินข้าว ซักผ้า
และ
ถ่ายรูปเจ้าจิ๋ว...




ถ่ายรูปตั้งแต่เกือบ ๆ เที่ยง จนถึง 6 โมงเย็นเลย
ไม่เคยคิดเหมือนกันนะ...
ว่าจะทำสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้นานเกือบ 1 ปีแล้ว
ปกติส้มมักเบื่อพวกสิ่งของหรือกิจกรรมต่าง ๆ ง่ายมาก
แต่ เจ้าจิ๋วและการถ่ายรูปเจ้าจิ๋ว ไม่เคยทำให้ส้มรู้สึกเบื่อเลย
มันเหมือนทำให้จินตนาการเป็นจริงมากกว่า
คิดอะไรได้ ก็ทำออกมา ถ่ายรูป แถมยังขายได้อีก
เลยทำให้มีความสุขในทุก ๆ วันที่อยู่กับสิ่งเหล่านี้

ในตอนแรก ซื้อเจ้าจิ๋ว เพราะเห่อเบ๊คกี้
อยากหานางแบบให้เบ๊คกี้
ไป ๆ มา ๆ เจ้าจิ๋วกลับไม่ใช่แค่นางแบบ
แต่ กลายเป็นคู่หูกับเบ๊คกี้ไปเลย
ส่วน ส้ม ที่ตอนแรกตั้งใจว่า จะซื้อเบ๊คกี้มาเพื่อถ่ายรูปตัวเอง
กลับตรงกันข้าม เพราะ ถ่ายรูปตัวเองน้อยมาก ๆ ^^"


ชุดวันนี้ เลิศมาก เรามีสไตล์เป็นของตัวเอง (ห้าห้าห้า)

รู้สึก ชอบ สนุก เพลิน มีความสุข... ^^
เกือบ 1 ปีแล้ว กับการได้รู้จักเบ๊คกี้ และ เจ้าจิ๋ว :)
เราลูบ เราคลำ กันทุกวัน วันละหลาย ๆ เวลา อิอิ

ไม่เคยเสียดายเงินเลยที่ซื้อเบ๊คกี้มา
จุ๊บเบ๊คกี้....


.....


Happy Monday ka ... :)


.....

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

งานสถาปนิก / lumibox



01-04-2016


ได้กินอะไรตามใจชอบซักที ^^
ไม่ต้องกลัวยางดึงฟันเหลือง หรือ เปลี่ยนสี
เช้านี้... เลยเปิดกระเพาะด้วยขนมจีนแกงเขียวหวานซะเลย






อาหย่อยที่ซู๊ดดดดดด.... :)


.....


วันนี้ไปงานสถาปนิกที่เมืองทอง
เดินตั้งแต่เที่ยงจนทุ่มกว่า ๆ ขาลาาาากกก... เลย
ออกจากเมืองทอง ไปเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
แล้วไมค์ก็พาเดินไปพันทิป เป็นวันที่เดินเยอะมาก ๆ

ตอนแรกส้มคิดว่า ไมค์จะไปซื้อของของไมค์
แต่ที่ไหนได้... กลับกลายเป็นของของส้ม ^^*
(ไมค์น่ารักที่สุด.......)




มันคือกล่องสำหรับถ่ายรูป
ปกติส้มจะถ่ายรูปได้เฉพาะตอนกลางวัน
ทำให้ชีวิตค่อนข้างเร่งรีบตลอด เพราะต้องให้ทันแสง
แต่ถ้ามีเจ้านี่ ส้มจะถ่ายรูปตอนไหนก็ได้
คราวนี้หล่ะ สบายแล้ว ^^


.....


Happy Sunday ka... :)


.....

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

ดีใจกับการติด Braces โลหะ ๆ ๆ



27-04-2016


เมื่อวานมีนัดหมอฟัน ก็ไปตามนัดปกติ
แต่ ไปด้วยใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ
เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว คุณหมอบอกว่า จะถอดหมุดที่เหงือกบนออก
แอบกลัวเจ็บ จำได้ว่า เมื่อตอนถอดหมุดจากเหงือกล่าง เจ็บมาก ๆ

แต่ผิดคาด เพราะ คุณหมอยังไม่ถอด
และเปลี่ยน Braces จากเซรามิกใส เป็นแบบโลหะ (เฉพาะฟันบน 6 ซี่หน้า)




สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนเป็นแบบโลหะ คือ
คุณหมอต้องการเห็นรูปฟันว่าโค้งได้รูปตามที่ต้องการแล้วหรือยัง
ตอนใส่แบบเซรามิก มันทำให้ดูได้ไม่ชัด
และ ช่วงโค้งสุดท้ายของการจัดฟัน จะมีการแกะ Braces และติดใหม่ เพื่อปรับรูปฟัน แทบจะทุกครั้ง
ของส้มเป็นเซรามิก ทำให้เวลาแกะออก มันแตก
คุณหมอเลยขอเปลี่ยนเป็นแบบโลหะ เพื่อความสะดวก
(ตอนแรก หมอกลัวส้มไม่พอใจ แต่ที่ไหนได้ ส้มดีใจมาก)

ตอนนี้ ฟันล่าง เรียบร้อยหมดแล้ว โค้งสวยได้รูป ถูกใจคุณหมอ
แต่ว่า ฟันบน ยังไม่ถูกใจ คุณหมอเลยขอปรับให้โค้งอีกนิดก็แล้วกัน
แล้วอีกอย่าง คือ ฟันบนคู่หน้า 2 ซี่ จะต้องย้อยนิด ๆ ไม่ใช่เท่ากันหมด
ส้มฟังแล้วก็ โอเค ๆ ยังไงก็ได้ ขอแค่ฟันไม่เหยิน เวลายิ้มแล้ว "สวย" เป็นพอ ^^
(แต่ตอนนี้ เวลายิ้ม ปากเบี้ยวนะ ก็ต้องรอดูต่อไป ว่าจะเป็นยังไง)


การเปลี่ยน Braces จากเซรามิก เป็นโลหะ ทำให้ความลั๊ลลาของส้มบังเกิด ...

ยังไง ???

อิอิ...
ก็ ตอนใส่แบบเซรามิก เวลากินอะไรที่สีจัดจ้าน ยางที่ดึงฟันจะเปลี่ยนสี แล้วเห็นได้ชัด
ทำให้น่าเกลียดมาก ๆ เหมือนพวกฟันสกปรก
ส้มก็เลยตัดปัญหานี้ ด้วยการงดกินอาหารสีจัด

ซึ่งทำให้พลาดของโปรด อย่าง แกงไตปลา
ชีวิตเศร้ามาก เวลาเห็นร้านไหนขาย น้ำลายงี้..... ท่วมปาก (ห้าห้าห้า)
แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะไม่อยากยิ้มแล้วเห็นยางเหลือง ๆ เขียว ๆ
เพราะเวลามันเปลี่ยนสี มันไม่ได้เปลี่ยนแค่สีเหลือง ถ้าหนัก ๆ หน่อย ถึงกับเขียวเลยเชียว
มองแล้วน่าเกลียดสุด ๆ

แต่ตอนนี้ สบายละ ๆ ๆ
ถึงแม้ฟันล่างจะยังเป็นเซรามิก แต่ฟันบนเป็นโลหะ ก็ไม่เป็นไร เพราะ เวลายิ้ม ฟันล่างมักไม่เห็น
หากว่ามันจะเหลือง หรือจะเขียว หรือจะแดง (เอ๊ย.. นั่นมันสัญญาณไฟจราจรแล่ว .. อิอิ) ก็ไม่เป็นไร

แกงไตปลาจ๋า............... คิดถึงที่ซู๊ดดดดดดดดดดด.....

แผล่บ ๆ ...


.....


Happy Wednesday ka .. :)


.....

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

แพลนชีวิต



20-04-2016


ปีนี้ อายุ 31
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะได้แต่งงานตอนช่วงอายุ 32 (ซึ่งก็ประมาณปลายปีหน้า)
สิ่งที่รออย่างเดียวในตอนนี้คือ "บ้าน" ที่กำลังสร้าง
ณ ปัจจุบัน กำลังจะขึ้นชั้น 2 แล้ว ช่วงปลายปีนี้ หรือเลทหน่อยก็เป็นต้นปีหน้า โครงสร้างน่าจะเรียบร้อย
ตกแต่ง นู่นนี่นั่น กระจุ๊กกระจิ๊กอีก ก็คงปลายปี 2560 แหละ
ส้มกับไมค์ตั้งใจไว้ว่า เราจะแต่งงานกันเลย ทันทีที่บ้านสร้างเสร็จ
นี่คือ แพลนของส้มกับไมค์

ส่วนตัวส้มเอง
ตอนนี้ ทำงานประจำอยู่ ทำมาแล้ว ปีนี้เป็นปีที่ 8 เข้าสู่ปีที่ 9
ถึงเวลาจบการทำงานประจำของตัวเองแล้ว :)

หลายวันก่อนมาเปรย ๆ ไว้ว่า จะลาออกจากงาน
แล้วไปเที่ยวแบบเรื่อยเปื่อยไม่มีกำหนดกลับช่วงปลายปีหน้า
มาวันนี้ คิดว่า ช่วงปลายปี อาจช้าไป ส้มอาจจะลาออกเร็วขึ้น
เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการเร็วอีกหน่อย ก่อนจะแต่งงาน
เพราะ ถ้าแต่งงาน ส้มอยากมีลูกเลย ไม่อยากเสียเวลาแล้ว
ถ้าจะมารอเที่ยวตอนหลังแต่งงาน คิดว่า น่าจะไม่เหมาะ

ที่คิดไว้ตอนนี้ ก็ประมาณเดือน พ.ค. ของปีหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านั้น
เท่ากับว่า เหลือเวลาในการทำงานอีกประมาณ 12 เดือน พอดี (นับจากวันนี้)
ขอเก็บเงินอีกนิด เพื่อใช้ชีวิตแบบไม่มีงานทำเกือบ ๆ ปี (ก่อนแต่งงาน)

12 เดือนสุดท้ายของการทำงาน
มันทำให้หัวใจพองโต ที่รู้ว่า วันสิ้นสุดของการทำงานตรงนี้ คือ เมื่อไหร่
มันทำให้จิตใจเบิกบานในทันทีที่คิดว่า อีกไม่นานแล้ว เราจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ
ไม่ต้องอยู่ในกรอบของการทำงาน 6 วัน ตื่นมา ทำงาน เลิกงาน กินข้าว นอน
เราจะได้ทำหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่อยากทำ

ไปเที่ยว พักผ่อน อยู่กับตัวเอง อยู่กับลิลลี่ ให้หนำใจ
เรียนทำอาหาร เรียนทำขนม
ทำในสิ่งต่าง ๆ ที่ตอนทำงาน ไม่สามารถทำได้ ที่แม้แต่จะเจียดเวลาไปทำใบขับขี่ ยังไม่มี

โหย... แค่คิด ก็ยิ้มแก้มแทบปริแล้ว ^____________^



.....


ทำแบบนี้ มีเงินเหลือนักหรือไง คำตอบ คือ ไม่เลยนะ
ไม่ได้รวยล้นฟ้า ส้มก็แค่มนุษย์เงินเดือนคนนึง เงินเดือนไม่ได้เยอะมาก
เหมือน ๆ คนอื่นทั่ว ๆ ไปนี่แหละ เผลอ ๆ อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ

หลายคนอาจมองว่า ไม่ได้รวย ไม่ได้มีเงินเหลือ ไม่ได้สบาย
แต่ทำตัวแบบนี้ กระแดะว่ะ

ไม่เป็นไรนะ นึกว่า นึกด่า ในใจได้
คือ ตัวของเราเอง ย่อมรู้ว่า อะไร ที่เคยเกิดกับเราบ้าง ปัจจุบัน เราเป็นยังไง
ตอนนี้ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสบายมากนักหรอกนะ แต่ถ้ามีโอกาศ ก็อยากใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ

ส้มกำลังจะเดินไปอีกก้าวของชีวิต ซึ่งก็คือ การแต่งงาน
ดังนั้น ขอส้มใช้ชีวิตในแบบที่ส้มต้องการบ้าง
ขอใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองโหยหามาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา

นี่แหละ คือ สิ่งที่คิดในตอนนี้...
ส่วนคนอื่น จะคิดยังไง ก็เป็นเรื่องของคนอื่น
ส้มจะคิดแต่ในส่วนของส้มคนเดียว เพราะ ชีวิต เป็นของส้มเพียงคนเดียว


.....


คำว่า "โอกาศ"
มันแทบจะไม่ผ่านเข้ามาในชีวิตของส้มเลย

โอกาศ ในการทำงาน
โอกาศ ที่จะได้ทำงานที่ตัวเองชอบ
โอกาศ ที่จะได้ไปเที่ยวนู่นนี่นั่น
โอกาศ ที่จะมีเพื่อนใหม่
โอกาศ ที่จะ.... (ละไว้ ในฐานที่เข้าใจแต่เพียงคนเดียว)

โอกาศต่าง ๆ ของส้ม มันไม่เคยผ่านเข้ามาเลย
คำว่า "โอกาศ" ที่ขาดหายไป ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา
มันทำให้ส้มต้องใช้คำว่า "อดทน" อย่างมาก ทั้งความรู้สึก และ จิตใจ
พยายามหาว่า ความสุข ของสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ มันอยู่ตรงไหน
และดึงมันมาไว้กับตัวเราให้มากที่สุด

หลายสิ่ง หลายอย่าง หลายเหตุการณ์ เราไม่ได้เป็นคนทำ
แต่ผลที่เกิดขึ้น มันมีผลกับเรา
ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือ การ "ยอมรับ" และ อยู่กับมันให้ได้

ไม่โทษใครนะ ที่ทำให้บางครั้ง พลาดโอกาศในชีวิตไปหลายอย่าง
ทุกคนล้วนมีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเอง
สวรรค์ลิขิตมาแล้วว่า คน ๆ นี้ ต้องมีชีวิตแบบนี้
ส้มก็ได้แต่ทำวันนี้ให้ตัวเองมีความสุขที่สุด แค่นั้น ...

และ วันที่ส้ม มีคำว่า "โอกาศ" เข้ามาในชีวิต
ส้มก็ไม่อยากพลาดมันไป
ถึงแม้ ใครจะว่า ใครจะคัดค้าน ยังไงก็ตาม
แต่ "โอกาศ" ในการทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการในครั้งนี้ ส้มจะไม่ยอมให้มันหลุดลอยไปแน่

.....

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

ความฝันของส้ม



12.04.2016

ความฝันที่จะได้ไปเที่ยวที่ใดที่หนึ่ง ของแต่ละคน ย่อมไม่เหมือนกัน
ความฝันของส้มคือ การได้ไปเที่ยว ฮ่องกง

ยังไง ฮ่องกง แกเรียกว่าเป็นความฝันเลยหรอ ???

ใช่... ส้มชอบประเทศฮ่องกงมาก ไม่รู้ทำไมนะ
บางคนชอบ ญี่ปุ่น เกาหลี อิตาลี่ อเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ หรืออะไรก็ตาม

แต่สำหรับส้ม แค่ "ฮ่องกง" เพียงประเทศเดียวเท่านั้น

ไม่ใช่ฝันแค่ ได้ไปเที่ยว 5 วัน 10 วัน แค่นั้นนะ
แต่ ความฝันของส้มคือ การได้ไปเที่ยวฮ่องกงคนเดียว

อ่านไม่ผิด ""คนเดียว""

และ เป็นการไปเที่ยวแบบไม่มีกำหนดกลับ ................  เอ๊ะ... ยังไง (อิอิ)

คือ ส้มจะไปเที่ยวแบบไม่มีกำหนดวันกลับ
เที่ยวไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่า อิ่ม แล้วอยากกลับเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับ
คิดไว้คร่าว ๆ ก็น่าจะประมาณ 1 เดือน

จะไปเที่ยวแบบไม่รีบ เช้าตื่นมา สบาย ๆ แล้วตะลอนไปตามสถานที่ที่ชอบ

ส้มเคยไปแล้วครั้งนึงกับแนน เมื่อหลายปีที่แล้ว
ตั้งแต่กลับมา ความคิดที่ว่า จะไปเที่ยวคนเดียว แบบไม่มีกำหนดวันกลับ จึงเกิดขึ้น





.....


มาวันนี้ ความฝันนั้น ใกล้จะเป็นจริงแล้ว
แพลนไว้คร่าว ๆ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ช่วงประมาณปลายปีหน้า ส้มน่าจะได้ทำตามความฝันนี้
แค่คิด ก็ตื่นเต้นแล้ว ^^


.....


Happy Songkran Day ka ... :)


.....